ฝนนี้ระวัง! ลูกเป็นหวัดเรื้อรัง เช็กสาเหตุ อาการ และวิธีเสริมภูมิลูกให้แข็งแรง

ลูกเป็นหวัดเรื้อรัง

ลูกเป็นหวัดเรื้อรัง ทำไงดี? คำถามยอดฮิตของคนเป็นพ่อและแม่ในช่วงหน้าฝนนี้ อาการหวัดเรื้อรังนี้ จะเป็น ๆ หาย ๆ ถ้าหากรับการรักษาไม่ถูกต้อง หรือปล่อยให้เรื้อรังต่อไป ก็อาจก่อให้เกิดโรคอันตรายแทรกซ้อนตามมาได้ ฉะนั้นอย่าได้ประมาทไป! มาเช็กกันว่าอาการหวัดเรื้อรังในเด็กน้อย มีสาเหตุ อาการ วิธีรักษา อย่างไร และควรเสริมภูมิคุ้มกันเด็กอย่างไรให้แข็งแรงสู้หน้าฝนนี้!?

ทำไมเด็ก ๆ ถึงเป็นหวัดง่ายในหน้าฝน?

ฤดูฝน คือ ฤดูกาลที่เด็ก ๆ มักมีความสุขเป็นพิเศษ เพราะ เด็กมักจะสนุกสนานกับการเล่นน้ำฝนเสมอ ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองก็ได้แต่เตือนด้วยความหวังดีว่า “อย่าเล่นน้ำฝนนะลูก เดี๋ยวจะเป็นหวัด” ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงทำให้เด็กเป็นหวัดหน้าฝนได้ง่าย มีดังนี้

  1. เชื้อโรคที่มากับหน้าฝน เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เพราะความชื้นสูงซึ่งเชื้อโรคเติบโตได้ดี
  2. ลมพายุพัดพาเชื้อโรคมาสู่เด็ก เมื่อเด็กหายใจเข้าไป ก็ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางเดินหายใจ ทำให้ป่วยเป็นหวัดได้
  3. สารก่อภูมิแพ้พบมากในหน้าฝน เช่น อากาศเย็นและชื้น ไรฝุ่น เชื้อรา ทำให้เด็กเป็นหวัดเรื้อรังจากภูมิแพ้ได้ (แต่จะไม่มีไข้)
  4. ภูมิคุ้มกันเด็กยังไม่แข็งแรง โดยเฉพาะในเด็กอนุบาล หากไปเล่นน้ำฝนบ่อย ก็เสี่ยงเป็นหวัดได้ง่ายขึ้นอีก

หวัดเรื้อรังมี 2 ประเภท สามารถเป็นได้ตั้งแต่ 2 – 6 เดือนขึ้นไป

  1. หวัดเรื้อรังที่เกิดจากการติดเชื้อ – โดยเฉพาะหวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย จะอันตรายกว่าเชื้อหวัดจากไวรัส เพราะ ทำให้ป่วยได้นานกว่า อาการรุนแรงกว่า และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้
  2. หวัดเรื้อรังจากภูมิแพ้ – มักเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่เราแพ้ และเผชิญอยู่เป็นประจำ เช่น ฝุ่น สัตว์เลี้ยง ละอองเกสรดอกไม้ อาหาร เป็นต้น อยู่ที่ว่าเราแพ้อะไร ถ้าเราไม่หลีกเลี่ยง ก็จะทำให้เป็นหวัดเรื้อรังจากภูมิแพ้ได้

อาการหวัดเรื้อรังในเด็ก

  1. น้ำมูกไหล
  2. มีไข้ต่ำ
  3. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  4. จาม คัดจมูก
  5. อ่อนเพลีย เหมือนจะเป็นลม
  6. เหงื่อออกหน้าซีด
  7. มีอาการนอนกรน
  8. เจ็บคอ ไอมีเสมหะ
  9. หูอื้อ

ระวัง! 8 โรคแทรกซ้อนจากหวัดเรื้อรัง

โดยทั่วไปถ้าเด็กเป็นหวัดมานานกว่า 10 วัน พ่อแม่ ผู้ปกครองควรพิจารณาพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาโรคแทรกซ้อน ดังนี้

  1. ไซนัสอักเสบ
  2. โรคภูมิแพ้จมูก
  3. หูชั้นกลางอักเสบ
  4. ต่อมอะดีนอยด์โต
  5. ริดสีดวงจมูก
  6. ไอเรื้อรัง
  7. ปอดอักเสบ
  8. หอบหืด

ในกรณีหูน้ำหนวก ลูกอาจมีอาการปวดหู หรือถ้าแก้วหูทะลุก็อาจมีหนองไหลออกจากหูได้ ในกรณีที่ลูกเป็นไซนัสอักเสบอาจมีอาการน้ำมูกข้นเขียว เสมหะข้น ไอมีเสมหะ ไม่ได้กลิ่นร่วมด้วย หากแย่กว่านั้น คือ ปอดอักเสบจะพบมีไข้สูง ไอมาก หายใจเร็วขึ้น และมีกลิ่นเหม็น อาจมีอาการปวดศีรษะ หรือหายใจไม่ได้กลิ่นร่วมด้วย

ลูกเป็นหวัดเรื้อรัง มีวิธีรักษาอย่างไร?

ก่อนการรักษา ควรหาสาเหตุให้พบก่อนว่า ลูกเป็นหวัดเรื้อรัง จากสาเหตุใด? เพื่อรับการรักษาอย่างตรงจุด ฉะนั้น หากลูกบ้านใดที่เป็นหวัดบ่อย เป็น ๆ หาย ๆ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรพาไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง และรับการรักษาจากแพทย์ต่อไป

ในกรณีที่ลูกเป็นหวัดเรื้อรังจากภูมิแพ้ จำเป็นต้องรู้ว่า ลูกแพ้อะไรบ้าง เมื่อทราบแล้วก็ควรบอกให้ลูกหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ หรือถ้าหากไม่ทราบ ควรพาเด็กไปพบแพทย์ เพื่อรับการทดสอบภูมิแพ้ในเด็ก

ส่วนวิธีรักษาอาการหวัดเบื้องต้น มีดังนี้

  1. ถ้ามีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล อาจใช้ยาแก้หวัดได้ เช่น ยาพาราเซตามอล โดยต้องคำนึงถึงน้ำหนักตัวของลูก หรือปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา
  2. หากแน่นจมูกมาก หายใจไม่ออก อาจให้ยาเช็ดจมูกช่วยยุบบวมในจมูกได้ ช่วยให้โล่งจมูกทันที แต่ไม่ควรใช้นานเกิน 3 วัน
  3. หมั่นล้างจมูกให้ลูกบ่อย ๆ ด้วยน้ำเกลือ หรือสอนให้ลูกรู้วิธีล้างจมูกด้วยตัวเองอย่างถูกต้อง
  4. ส่วนยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการหวัดที่เกิดจากแบคทีเรีย ควรใช้ตามคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น

แพทย์แนะ! วิธีป้องกันไม่ให้เด็กเป็นหวัดง่ายในฤดูฝน

นายแพทย์ประวิทย์ เจตนชัย กุมารแพทย์ด้านโรคระบบทางเดินหายใจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า วิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเป็นไข้หวัด ได้แก่

  1. เตรียมร่ม หรือเสื้อกันฝน ติดตัวถ้าจำเป็นต้องพาเด็กไปนอกบ้าน
  2. ถ้าเปียกฝน เมื่อกลับเข้าบ้านต้องรีบเช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง องุ่น สับปะรด เป็นต้น
  4. เด็กทารกควรให้กินนมแม่ ทำให้เด็กได้รับภูมิต้านทานโรค ส่วนเด็กโตควรรับประทานอาหาร และดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
  5. ควรให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกาย และออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย
  6. พักผ่อนให้เพียงพอ หากฝนตกหลีกเลี่ยงการนอนใกล้หน้าต่างเพราะอาจถูกละอองฝน และใส่เสื้อผ้าหนา ๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
  7. ให้เด็กหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เป็นหวัด โดยสอนลูกให้ป้องกันการไอ หรือจามด้วยวิธีการปิดปาก หรือใส่หน้ากากอนามัย

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ตัวช่วยเสริมภูมิเด็กในหน้าฝน

NUTROPLEX OLIGO PLUS ( นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ) วิตามินรวมสำหรับเด็ก ที่มีส่วนผสมของมัลติวิตามิน ใยอาหารธรรมชาติ กระตุ้นการขับถ่าย เสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี “ไลซีน” ช่วยเพิ่มความอยากอาหารของเด็ก สำหรับเด็กที่กินน้อย กินยาก ไม่ได้กินอาหารครบหมู่ หรือ ไม่กินผักผลไม้เป็นประจำได้ทุกวัน

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส เป็นวิตามินรวมสำหรับเด็กตัวเดียวที่มี “ธาตุเหล็ก” ซึ่งมีส่วนเสริมสร้างและพัฒนาสมอง

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี Oligofructose ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Prebiotic และใยอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยในการปรับสมดุลย์ด้านระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มกากใยให้กับระบบทางเดินอาหาร ป้องกันท้องผูกได้ดี

สั่งซื้อ NUTROPLEX OLIGO PLUS ได้ที่นี่

• แอดไลน์ ID : @nutroplexclub
• Inbox Facebook : https://www.facebook.com/nutroplexclub

หรือสั่งซื้อตามร้านขายยาชั้นนำ เช่น Boots, Health up, Fascino, P&F, Pure, Save Drug, D Chain, Tesco (แผนกร้านขายยา), Drug Core, I Care, Drug Square, Ameditec และทาง ออนไลน์ Konvy.com

 

อ้างอิง : 1. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 2. รพ. สินแพทย์ 3. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close