ปอดอักเสบ โรคร้ายพบบ่อยในเด็ก ยิ่งในฤดูฝนยิ่งต้องระวัง!

ปอดอักเสบ

โรคปอดบวมหรือ ปอดอักเสบ เป็นหนึ่งใน 6 โรคที่ สธ.ประกาศเตือนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงอากาศเย็น และยังเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของโรคติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นโรคที่ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ? ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองต้องห้ามประมาทโรคนี้เลยทีเดียว มาดูกันว่า ปอดอักเสบ มีสาเหตุ อาการ วิธีรักษาอย่างไร

ปอดอักเสบ

ปอดอักเสบ คืออะไร?

โรคปอดอักเสบ หรือ โรคปอดบวม (pneumonia) คือ การอักเสบของเนื้อปอดซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ อาจเป็นได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อที่เป็นสาเหตุมักอยู่ในน้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย โรคปอดอักเสบอาจเป็นโรคที่เกิดแทรกซ้อนตามหลังไข้หวัด หรือโรคอื่น ๆ ก็ได้

โรคนี้พบบ่อยในเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก เด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด มีโรคหัวใจ มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือมีภาวะขาดอาหาร ซึ่งพบว่าในแต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก

 

สาเหตุโรคปอดอักเสบ

สามารถเกิดได้จาก 2 สาเหตุด้วยกัน คือ 1. การติดเชื้อ 2. ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

1. ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ

เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในหน้าฝน และหน้าหนาว พบได้ทั้งจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือแม้กระทั่งเชื้อรา และพยาธิ แต่ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัส เช่น เชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus – RSV), เชื้อไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus), เชื้อโคโรนา (Coronavirus), เชื้ออะดีโนไวรัส (Adenovirus)

ส่วนเชื้อแบคทีเรียที่เด็กมีโอกาสติด ได้แก่ เชื้อสเตร็ปโตคอสคัส (Streptococcus), เชื้อเชื้อฮีโมฟิลุส (Haemophilus), เชื้อไมโครพลาสม่า (Mycoplasma)

2. ปอดอักเสบจากการไม่ติดเชื้อ

มีสาเหตุมาจาก ฝุ่นPM2.5 ควันธูป ควันบุหรี่ สารเคมีที่ระเหยได้

ปอดอักเสบ มีอาการอย่างไร?

เด็กที่เป็นโรคปอดติดเชื้อ อาจไม่ได้มีอาการไอแห้ง ๆ หรือเป็นไข้ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ และอาจมีอาการของการติดเชื้อที่รุนแรงกว่าได้ อาการที่สำคัญของโรคปอดอักเสบในเด็กส่วนใหญ่ ได้แก่

  • หากสังเกตที่บริเวณชายโครงจะเห็นว่าใต้ชายโครงจะบุ๋มเข้าไปเวลาหายใจเข้า และถ้าดูที่จมูกอาจเห็นจมูกบานเวลาหายใจเข้า
  • มีไข้ เหงื่อออก หนาวสั่น ระยะเฉียบพลัน
  • ถ้าเป็นรุนแรงมาก ริมฝีปากอาจเขียว ซึ่งแปลว่าขาดออกซิเจนแล้ว
  • ไอมีเสมหะ
  • หายใจเร็ว หายใจหอบ เหนื่อย
  • มีอาการท้องอืด อาเจียน ซึม ไม่ดูดนมหรือน้ำ

ปอดอักเสบ

การรักษา

  • ดื่มน้ำมาก ๆ แต่ถ้าหอบมาก จนรับประทานอาหารไม่ได้ ควรให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ป้องกันลูกสำลัก
  • ควรให้ออกซิเจน เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณออกซิเจนที่เพียงพอ
  • ให้ยาขยายหลอดลม สำหรับรายที่หลอดลมตีบจนเกิดเสียงหายใจวี๊ด
  • รับประทาน ยาขับเสมหะ หรือยาละลายเสมหะ ในกรณีที่ให้สารน้ำเต็มที่แล้วแต่เสมหะยังเหนียวอยู่
  • ไม่ควรให้ยาที่ออกฤทธิ์กดการไอ โดยเฉพาะในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี เพราะยาที่กดการไอจะทำให้มีเสมหะคั่งค้างอยู่ภายในถุงลมปอดมากขึ้น ควรให้ไอเพื่อให้เสมหะออกมามากที่สุด
  • ทำกายภาพทรวงอก (chest physical therapy) เพื่อช่วยระบายเสมหะให้ถูกขับออกจากปอดและหลอดลมได้ดีขึ้น
  • รักษาอื่น ๆ ตามอาการ เช่น รับประทานยาลดไข้
  • ถ้าเกิดจากเชื้อไวรัส ยังไม่มียารักษา นอกจากรักษาตามอาการ ยกเว้นเกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ สามารถใช้ยาต้านไวรัสได้
  • ถ้าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาจรักษาด้วยการใช้ยาปฎิชีวนะ

วิธีป้องกันปอดอักเสบในเด็ก

  • ไม่พาลูกไปสถานที่ที่มีคนมาก เช่น ศูนย์การค้า ตลาด สวนสนุก โดยเฉพาะเด็กเล็ก
  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดระคายเคือง เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ อากาศเย็น ๆ หรือ การใช้แป้งฝุ่นกับเด็ก
  • รักษาความสะอาด สุขอนามัย ให้ลูกล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ใช้ช้อนกลางตักอาหาร
  • ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ ของเล่น ของที่ลูกต้องสัมผัสเป็นประจำ
  • ระวังอากาศเย็น นอนตอนกลางคืน ไม่เปิดแอร์ หรือพัดลมจ่อที่ตัวลูก
  • ถ้ามีผู้ใหญ่ป่วยในบ้าน ไม่ควรให้อยู่ใกล้ชิดเด็กเล็ก

ป้องกันปอดอักเสบได้โดยการฉีดวัคซีน

สาเหตุของการเกิดปอดบวมในเด็ก มักเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเราสามารถป้องกันการติดเชื้อบางชนิดได้ โดยการให้วัคซีนป้องกันการเกิดปอดอักเสบ เช่น

  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่
  • วัคซีน IPD
  • วัคซีนพื้นฐานตามวัยที่ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันโรคไอกรน โรคฮิบ และโรคหัด เป็นต้น

 

ที่มา: 1. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 2. รพ. เวชศาสตร์เขตร้อน 3. รพ. วิภาวดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close