โรคกรดไหลย้อน

13 ก.ย. 24

บทความโดย ดร. ภก. นิติ สันแสนดี
อาจารย์พิเศษผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์สุขภาพ

โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เป็นภาวะที่เกิดจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร ซึ่งปกติแล้วกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลาย (Lower Esophageal Sphincter: LES) จะทำหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับ แต่ในผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน จะพบการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อปิดปากหลอดอาหาร ซึ่งจะทำให้เนื้ออาหารและน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร ไหลกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร

สาเหตุของโรคกรดไหลย้อนมีหลายประการ ดังนี้
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายพฤติกรรมการทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การทานอาหารเผ็ด กระเทียม ผักสดหรือผลไม้เปรี้ยว ทานอาหารมื้อใหญ่ ทานอาหารก่อนนอน ทานอาหารไม่ตรงเวลา ทานอาหารรสจัด ทานอาหารที่มีไขมันสูง

  • การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่
  • การมีน้ำหนักตัวมากหรืออ้วน
  • การตั้งครรภ์
  • โรคบางชนิด เช่น โรคหืดหอบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคเบาหวาน
  • ยาบางชนิด เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด ยาต้านซึมเศร้า
  • ปัจจัยพันธุกรรม

อาการ
อาการของโรคกรดไหลย้อนที่พบได้บ่อย ได้แก่ แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่หรือหน้าอก มักเกิดหลังรับประทานอาหาร เรอเปรี้ยว เจ็บคอ ไอเรื้อรัง เสียงแหบ รู้สึกเหมือนมีก้อนในลำคอ คลื่นไส้ อาเจียน เนื่องจากฤทธิ์ของกรดทำให้หลอดอาหารระคายเคืองจนอาจเกิดการอักเสบ เป็นแผลรุนแรงจนตีบ ทำให้กลืนอาหารได้ลำบาก รู้สึกเจ็บ ภาวะแทรกซ้อน หากไม่ได้รับการรักษา โรคกรดไหลย้อนอาจส่งผลต่อสุขภาพ การใช้ชีวิตประจำวัน และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้ การอักเสบของหลอดอาหาร (esophagitis) แผลในหลอดอาหาร (esophageal ulcer) หลอดอาหารตีบ (esophageal stricture) การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในหลอดอาหาร (Barrett’s esophagus) นอกจากนี้อาจทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งหลอดอาหาร (esophageal cancer)แม้ในปัจจุบันยังพบได้น้อย ซึ่งมะเร็งหลอดอาหาร เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุดของโรคกรดไหลย้อน เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ในหลอดอาหารมีการเจริญเติบโตผิดปกติจนกลายเป็นเนื้อร้าย มักพัฒนาในผู้ป่วย Barrett’s esophagus ซึ่งเป็นภาวะที่เซลล์ในเยื่อบุหลอดอาหารส่วนล่างเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ที่คล้ายกับเซลล์ในลำไส้เล็ก

การรักษา
การรักษาโรคกรดไหลย้อนมักจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต ดังนี้ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน เช่น อาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีคาเฟอีน ช็อกโกแลต แอลกอฮอล์ ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ บ่อย ๆ แทนการทานอาหารมื้อใหญ่ ทานอาหารก่อนนอน 3-4 ชั่วโมง รักษาให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ งดสูบบุหรี่ ยกศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยขณะนอนหลับ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตไม่เพียงพอ แพทย์อาจสั่งยาเพื่อรักษาโรค เช่น ยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะอาหาร ยาขับลม ในบางราย แพทย์อาจแนะนำให้ใช้การรักษาอื่น ๆ เช่น การผ่าตัด

การป้องกัน
การป้องกันโรคกรดไหลย้อนสามารถทำได้โดย รักษาให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ บ่อย ๆ แทนการทานอาหารมื้อใหญ่ ทานอาหารก่อนนอน 3-4 ชั่วโมง ยกศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยขณะนอนหลับ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

สรุป
โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะเรื้อรังที่พบบ่อย สามารถรักษาให้หายได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต หรือใช้ยาแก้กรดไหลย้อนหากจำเป็น การป้องกันโรคกรดไหลย้อนสามารถทำได้โดยรักษาให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อน

เอกสารอ้างอิง

Fugit RV and Berardi RR. Upper gastrointestinal disorders. In Alldredge, BK et al. editors. KodaKimble and Young’s Applied Therapeutics: the Clinical Use of Drugs. 10th ed. Philadelphia: Lippincott Williams and Wilkins. 2013.

Koufman JA. The otolaryngologic manifestations of gastroesophageal reflux disease (GERD): a clinical investigation of 225 patients using ambulatory 24-hour pH monitoring and an experimental investigation of the role of acid and pepsin in the development of laryngeal injury. Laryngoscope 1991;101(4 pt 2 Suppl 53):1-78.

Love BL and Thoma MN. Peptic ulcer disease. In Dipiro JT, Talbert RL, Yee GC et al. eds. Pharmacotherapy: A Pathophysiologic Approach. 9 th ed. New York: The McGraw-Hill companies, Inc. 2014.

May DB and Rao SSC. Gastroesophageal reflux disease. In Dipiro JT, Talbert RL, Yee GC et al. eds. Pharmacotherapy: A Pathophysiologic Approach. 9 th ed. New York: The McGraw-Hill companies, Inc. 2014.

Wallace JL and Sharkey KA. Pharmacotherapy of gastric acidity, peptic ulcers, and gastroesophageal reflux disease. In Brunton LL editor. Goodman & Gilman’s The Pharmacological Basis of Therapeutics. 12th ed. New Yotk: The McGraw-Hill companies, Inc. 2011. p 1309-1322.

World Health Organization.Classification of Diseases (ICD). Available at: https://icd.who.int/browse10/2019/en#/XI.Accessed June 12,2024.

คณะกรรมการผู้จัดทำแนวทางเวชปฏิบัติการ ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนในประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหล ย้อนในประเทศไทย พ.ศ. 2563 (Thailand GERD guideline 2020). กรุงเทพฯ:สมาคมประสาททาง เดินอาหารและการเคลื่อนไหว; 2563.

บทความที่เกี่ยวข้อง

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

Save