“9 วิธีป้องกันหวัดและภูมิแพ้” ไร้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล – ฉบับชาวออฟฟิศ

วิธีป้องกันหวัดและภูมิแพ้

เมื่อพูดถึงโรคยอดฮิตประจำออฟฟิศ คงหนีไม่พ้น โรคไข้หวัด และ โรคภูมิแพ้ วันนี้ GedGoodLife จึงขอแนะนำ 9 วิธีป้องกันหวัดและภูมิแพ้ ฉบับชาวออฟฟิศ มาฝาก เมื่อรู้แล้ว อย่าลืมนำไปทำตาม ๆ กันด้วยนะ

ดีคอลเจน

ชาวออฟฟิศต้องรู้! สาเหตุของไข้หวัด และ ภูมิแพ้

ไข้หวัด (Common cold) คือ โรคที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสบริเวณทางเดินหายใจส่วนบน เช่น จมูก คอ ไซนัส และกล่องเสียง

เมื่อร่างกายของเราหายจากไข้หวัดแล้ว ร่างกายก็จะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อชนิดนั้นขึ้นมา แต่เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดครั้งใหม่ก็มักจะเกิดจากเชื้อไวรัสหวัดชนิดใหม่ หมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ จึงทำให้คนเราเป็นไข้หวัดกันได้ปีละหลายครั้ง

อาการของคนเป็นไข้

  • มีไข้ต่ำ ๆ
  • คัดจมูก น้ำมูกไหล
  • ไอแห้ง ๆ หรือไอมีเสมหะเล็กน้อย
  • ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตัว อาจมีปวดข้อ
  • อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร

ภูมิแพ้ (Allergy) คือ คือโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง เกิดจากร่างกายไวต่อสิ่งกระตุ้น หรือ สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ (Allergens) ส่งผลให้มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในอวัยวะที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ รังแคของสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น โดยโรคภูมิแพ้อากาศมักพบบ่อยในที่ทำงาน

อ่านเพิ่มเติม ->
1. โรคไข้หวัด สาเหตุ อาการ วิธีรักษา และข้อควรรู้เรื่องหวัดกับ หมออ้อม
2. โรคภูมิแพ้คืออะไร ภูมิแพ้ รักษาอย่างไร? และสาระภูมิแพ้จากหมอกอล์ฟ

โรคไข้หวัด VS โรคภูมิแพ้อากาศ

9 วิธีป้องกันหวัดและภูมิแพ้ ฉบับชาวออฟฟิศ

1. วิตามินซี ของจำเป็น มีติดโต๊ะไว้เลย

เชื่อว่าหลายคนคงมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบวางขวดวิตามินไว้บนโต๊ะทำงานหลากหลายวิตามินเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น วิตามินรวม วิตามินบำรุงผิวพรรณ หรือคอลลาเจนก็ตาม… แต่ถ้าอยากห่างไกลไข้หวัด และภูมิแพ้ แค่เสริมด้วย วิตามินซี ก็เพียงพอแล้ว เพราะวิตามินซี มีสรรพคุณต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง แถมยังช่วยให้ผิวพรรณดีอีกด้วย

2. เสื้อกันหนาว ของต้องมี ของคนเป็นภูมิแพ้อากาศเย็น

รู้หรือไม่ ในกลุ่มโรคภูมิแพ้ คนไทยป่วยเป็นภูมิแพ้อากาศมากที่สุดเป็นอันดับ 1  และหลายคนเจออากาศเย็นเป็นไม่ได้ ภูมิแพ้กำเริบทันที! การทำงานในออฟฟิศ ที่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา จึงอาจทำให้ภูมิแพ้กำเริบได้ ฉะนั้นจึงควรมีเสื้อกันหนาว หรือ ผ้าห่มติดออฟฟิศไว้บ้าง ก็จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้ดีทีเดียว

3. ใช้ช้อนกลาง เมื่อต้องร่วมกินอาหารกับเพื่อนในออฟฟิศ

เบรคพักเที่ยง ชาวออฟฟิศมักจะซื้อข้าวมากินพร้อมกันกับเพื่อน ๆ และเป็นเหตุให้ติดเชื้อโรคกันได้ง่าย แพทย์จึงมักแนะนำให้กินร้อน ช้อนกลางอยู่เสมอ หรือแยกออกมากินเองได้จะดีที่สุด

4. รู้จักผ่อนคลาย เครียดให้น้อยลง

จริงอยู่ ที่ชาวออฟฟิศมักจะมีความเครียดอยู่บ่อย ๆ ทั้งจากเรื่องงาน จากเพื่อนร่วมงาน หรือจากหัวหน้าก็ตาม… แต่ถ้าหากเราไม่รู้จักจัดการกับความเครียด ไม่ปล่อยวาง ผ่อนคลายลง ก็จะทำให้ป่วยได้ไง เพราะ ภูมิคุ้มกันลดลงนั่นเอง

5. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าทำงานหนักเกินไป

การนอนหลับให้เพียงพออย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยให้อารมณ์ และผิวพรรณดีแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น หากมีอาการน้ำมูกไหล ไอ จาม จากภูมิแพ้ แนะนำให้นอนมาก ๆ ในคืนนั้น เมื่อตื่นมาอาการดังกล่าวจะดีขึ้นมากเลยทีเดียว และอีกข้อสำคัญคือ อย่าโหมงานหนักจนเกินไป เพราะ จะทำให้ร่างกายทรุดโทรม ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ… ลาพักร้อนบ้างอะไรบ้าง

6. ลดปริมาณฝุ่นบริเวณโต๊ะทำงาน

ฝุ่น คือหนึ่งในตัวการร้ายที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ หมั่นดูแลบริเวณโต๊ะทำงาน แป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ หนังสือ ให้สะอาดปราศจากฝุ่นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันฝุ่น เชื้อโรค และสัตว์พาหะ เช่น แมลงสาบ และหนู บุกโต๊ะทำงานของคุณ

7. มีพื้นที่ไว้วางแก้วน้ำสักแก้ว บนโต๊ะทำงาน หมั่นจิบน้ำบ่อย ๆ ทั้งวัน

รู้หรือไม่ น้ำสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ช่วยละลายเสมหะไม่ให้เหนียวข้น และยังช่วยลดไข้หากไข้ขึ้นสูงอีกด้วย ฉะนั้นอย่ามัวแต่ทำงานเพลิน หยิบน้ำขึ้นมาดื่มชั่วโมงละแก้ว ทำงาน 8 ชั่วโมงก็ครบ 8 แก้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ

8. เตรียมยาแก้หวัด ยาแก้ภูมิแพ้ ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานบ้าง

หากใครที่ป่วยเป็นหวัด เป็นภูมิแพ้อยู่บ่อย ๆ ก็ควรมียาสำหรับแก้หวัด แก้ภูมิแพ้ เป็นยาสามัญประจำโต๊ะทำงานไว้เลย หากป่วยขึ้นมา คิดจะกินยา ก็ได้กินทันใจ สำหรับยาแก้แพ้ แนะนำชนิดที่กินแล้วไม่ง่วง เช่น ยาลอราทาดีน เป็นยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วงซึม กินเสร็จก็ทำงานต่อได้ทันที ไม่มีหลับแน่นอน

9. พักเบรก ให้เคลื่อนไหวร่างกาย คลายปวดเมื่อยสะหน่อย

ตาจ้องแต่คอม สมองก็คิดแต่งาน อ่อนล้าไปหมดแบบนี้ ระวังภูมิคุ้มกันตก ไข้หวัด ภูมิแพ้ ถามหา! เมื่อพักเบรค ให้ลุกเดิน ออกไปสูดอากาศข้างนอกห้องบ้าง ขยับแข้ง ขยับขา บิดตัวไปมา ให้ร่างกายได้ยืดเส้นยืดสายเสียหน่อย

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close