หายโควิดแล้ว แต่ยังไอค่อก ๆ แค่ก ๆ อยู่เลย แถมมีโรคภูมิแพ้เป็นประจำอยู่แล้วด้วย เลยไม่แน่ใจว่า อาการไอที่เกิดขึ้นนั้นมาจากผลกระทบจากโควิด หรือ ภูมิแพ้กันแน่… หากใครที่กำลังสงสัยอยู่ ไม่ต้องกังวลไป วันนี้ GED good life จะมาเทียบอาการให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่า ไอภูมิแพ้ กับ ไอลองโควิด แตกต่างกันยังไง… มาเช็กกันเลย!
- วิธีลดอาการไอหลังหายจากโควิด-19
- ยาแก้ไอละลายเสมหะ คาร์โบซิสเทอีน : สรรพคุณ วิธีใช้ให้ถูกต้อง ปลอดภัย
- ไอเรื้อรัง มีเสมหะตลอดเวลา ระวัง! โรคหลอดลมโป่งพอง • สาเหตุ • อาการ • วิธีรักษา
ไอภูมิแพ้ กับ ไอลองโควิด แตกต่างกันยังไง?
• อาการไอจากภูมิแพ้
อาการไอเจ็บคอจากภูมิแพ้ เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) ชนิดต่าง ๆ ที่เราแพ้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เช่น ไรฝุ่น ฝุ่นPM2.5 มลพิษ เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เป็นต้น
โรคภูมิแพ้ที่มักทำให้มีอาการไอตามมา ได้แก่
- โรคหืด (Asthma) หรือ โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ – ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจหอบ เหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงดังหวีด และมักจะเป็น ๆ หาย ๆ บางรายอาจเกิดอาการทุกคืน
- โรคแพ้อากาศ (Allergic rhinitis) หรือ โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ – ผู้ป่วยจะมีอาการคันจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม มีเสมหะในลำคอ ไอเรื้อรัง หรือกระแอมตลอดเวลา
• อาการไอจากลองโควิด
- อาจไอมีเสมหะ หรือ ไอแห้ง (ไม่มีเสมหะ) รวมถึงอาจมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย
- อาจไอได้ยาวนานตั้งแต่ 1-3 เดือน
- หายใจมาก หายใจลึก หรือแค่พูดบ่อยก็เกิดอาการไอได้ (เกิดจากการเยื่อบุทางเดินหายใจในช่องคอถึงหลอดลมโดนทำลาย)
- ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไอปนเลือดเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
และอาการไอจากลองโควิดมักจะมีอาการร่วมอื่น ๆ ด้วยดังนี้
- เหนื่อยง่าย
- อ่อนเพลีย
- มีภาวะผมร่วงมากกว่าปกติ
- สมองล้า ปวดศีรษะ
- รวมถึงอาจพบอาการท้องเสียร่วมด้วยก็ได้
- บางรายมีอาการภูมิแพ้กำเริบได้
หากสังเกตอาการไอจากภูมิแพ้ และ อาการไอจากลองโควิด ก็จะพบความแตกต่างกัน ดังนี้
• ไอจากลองโควิด ไม่ต้องสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ก็เกิดอาการไอได้ ในขณะที่อาการไอจากภูมิแพ้ ต้องสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ที่เราแพ้ก่อน ถึงจะเกิดอาการไอ
• ไอจากลองโควิด กับ ไอจากภูมิแพ้ มักจะมีอาการร่วมที่แตกต่างกัน เช่น อาการลองโควิด มักมีภาวะอ่อนเพลีย ผมร่วงมากขึ้น (ขึ้นอยู่กับบุคคล และเชื้อโควิดที่ได้รับ) แต่อาการไอจากภูมิแพ้ไม่มีอาการเหล่านี้
• หากไอกลางคืน มักเกิดจากไอภูมิแพ้ เพราะ ห้องนอนเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น และอากาศที่เย็นลง (ไอกลางคืนอาจเกิดจาก กรดไหลย้อน ได้เช่นกัน)
• ไอจากภูมิแพ้จะมีอาการเด่นทางจมูก เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก ส่วนไอจากลองโควิดมักจะไออย่างเดียว
• ไอจากภูมิแพ้ มักมีอาการเรื้อรัง หรืออาจเป็นตลอดชีวิต เพราะ เมื่อไหร่ที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไป ก็จะทำให้เกิดอาการไอได้ แต่อาการไอลองโควิดจะหายไปเมื่อหมดภาวะลองโควิด
ทั้งไอจากลองโควิด และไอจากภูมิแพ้ หากดูแลไม่ดี ก็อาจทำให้เกิด “ปอดอักเสบ” ได้!
รู้หรือไม่ว่า อาการไอทั้งจากไอลองโควิดหรือไอจากภูมิแพ้ หากปล่อยทิ้งไว้นาน สามารถก่อให้เกิด “โรคปอดอักเสบ” ได้ โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
• ไอจากโควิด มีโอกาสก่อให้เกิด -> ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ หรือ pneumonia (ปอดบวม) เพราะเชื้อไวรัสที่เข้าสู่ปอด ทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด และเนื้อเยื้อโดยรอบได้
• ไอจากภูมิแพ้ มีโอกาสก่อให้เกิด > ปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เกิดจากการหายใจเอาสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น ควัน สารเคมีที่ระเหยได้
อาการสำคัญของโรคปอดอักเสบ ได้แก่
- ไอมีเสมหะ
- เจ็บหน้าอกขณะหายใจ หรือไอ
- หายใจเร็ว หายใจหอบ หายใจลำบาก
- มีไข้ เหงื่อออก หนาวสั่น
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย
- เด็กเล็กอาจมีอาการท้องอืด อาเจียน ซึม ไม่ดูดนมหรือน้ำ
หายโควิดแล้วแต่ยังไออยู่ แบบนี้ยังสามารถแพร่เชื้อได้ไหม?
ไม่สามารถแพร่เชื้อได้แล้ว สำหรับผู้ป่วยโควิดที่รักษา และกักตัวตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด หรือครบ 10 วันแล้ว (หรือตรวจผลด้วยชุดตรวจ ATK ไม่เจอ 2 ขีดแล้ว) ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการแพร่เชื้อให้กับคนรอบข้าง สามารถออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
อาการไอที่ควรมาพบแพทย์
หากอาการลองโควิดไม่หายไปสักที แถมยังมีอาการไอร่วมกับมีเสมหะมากขึ้น หรือเสมหะเปลี่ยนสี มีไข้ เหนื่อยมากขึ้น นอนราบไม่ได้ เหนื่อยหอบ หายใจเข้าแล้วเจ็บแน่นหน้าอก แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากการติดเชื้อ มีการอักเสบจากเยื่อหุ้มปอด ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถรักษาเองได้
ส่วนใครที่อยากรู้ วิธีลดอาการไอจากภาวะลองโควิด สามารถอ่านต่อได้ที่บทความนี้ -> วิธีลดอาการไอหลังหายจากโควิด-19
อ้างอิง : 1. ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก 2. รพ.ศิครินทร์ 3. รพ.บำรุงราษฎร์ 4. Doctor Tany