หน้าฝนพ่อแม่ระวัง! ไข้เลือดออกในเด็ก ภัยจากยุงลายทำร้ายลูก

ไข้เลือดออกในเด็ก

เมื่อถึงฤดูฝน มักจะมีโรคระบาดเกิดขึ้นหลายโรค และหนึ่งในนั้นคือ “โรคไข้เลือดออก” โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก มักจะเป็นโรคนี้กันได้ง่าย ฉะนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรระวังโรคนี้เป็นพิเศษ เพราะ เมื่อลูกเป็นแล้วจะมีอาการหนัก ถ้าถึงมือแพทย์ช้า อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ มาดูกันว่า “ไข้เลือดออกในเด็ก” มีอาการอย่างไร และควรรับมือยังไงดี?

ไข้เลือดออกในเด็ก โรคร้ายที่มากับ “ยุงลาย”

ไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจาก “เดงกีไวรัส (Dengue virus)” ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ คือ เดงกี 1 2 3 4 แต่ละสายพันธุ์มีระดับความรุนแรงของโรคต่างกันไป เมื่อผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเดงกีชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกีชนิดนั้นตลอดไป

การติดต่อของโรคนี้ มี “ยุงลายตัวเมีย” เป็นพาหะนำโรคมาสู่คน พบมากในฤดูฝน เพราะ เป็นฤดูกาลแพร่พันธุ์ของยุงลาย เมื่อยุงลายตัวเมียดูดเลือดจากผู้ป่วยที่มีเชื้อเดงกีเข้าไป เชื้อไวรัสเดงกีในยุงจะเพิ่มจำนวน และกระจายเชื้อเข้าไปสู่ต่อมน้ำลายของยุง เตรียมพร้อมที่จะปล่อยเชื้อให้กับคนที่ถูกกัดครั้งต่อไปได้ตลอดอายุของยุง ซึ่งอยู่ได้นาน 1-2 เดือน

อนึ่ง โรคไข้เลือดออกไม่ติดต่อทางการสัมผัส หรือรับประทานอาหารร่วมกัน

สถิติชี้! เด็กอายุ 5-14 ปี เสี่ยงเป็นไข้เลือดออกมากที่สุด

จากรายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออก กองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย จำนวน 16,650 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 25.16 ต่อประชากรแสนราย และผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก จำนวน 14 ราย คิดเป็นอัตราตาย 0.08 ต่อประชากรแสนราย ซึ่งจากสถิติดังกล่าวพบว่าจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในปี พ.ศ. 2566 สูงกว่าปี พ.ศ. 2565 ณ ช่วงเวลาเดียวกันถึง 4.7 เท่า

สำหรับกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจำนวนมากที่สุด ได้แก่

  • เด็กอายุ 5-14 ปี จำนวน 5,556 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 75.23 ต่อประชากรแสนราย
  • รองลงมา คือ ผู้ใหญ่ตอนต้นอายุ 15-24 ปี จำนวน 3,890 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 46.38 ต่อประชากรแสนราย
  • และผู้ใหญ่อายุ 25-34 ปี จำนวน 2,612 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 28.02 ต่อประชากรแสนราย

จังหวัดที่พบอัตราป่วยสะสมสูงสุดในประเทศไทย 5 จังหวัดแรก ได้แก่ จังหวัดตราด สงขลา สมุทรสาคร น่าน และนราธิวาส และจังหวัดที่พบอัตราผู้ป่วยสูงสุดในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา 5 จังหวัดแรก ได้แก่ จังหวัดน่าน ตราด จันทบุรี ชุมพร และตาก

ไข้เลือดออกในเด็ก

ไข้เลือดออกในเด็ก มีอาการอย่างไร?

กรมการแพทย์เตือน! พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกต 9 สัญญาณอาการเสี่ยงโรคไข้เลือดออก แม้ว่าไข้เริ่มจะลดลงอย่าชะล่าใจควรต้องไปพบแพทย์

  1. เบื่ออาหาร ไม่ค่อยเล่น และอ่อนเพลีย
  2. คลื่นไส้ อาเจียน ตลอดเวลา
  3. ปวดท้องมาก
  4. มีเลือดออกมาก เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
  5. พฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนไปจากปกติ
  6. กระหายน้ำตลอดเวลา
  7. ร้องกวนมากในเด็กเล็ก
  8. ตัวเย็น สีผิวคล้ำลง หรือตัวลาย
  9. ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ถ่ายปัสสาวะนานเกิน 4- 6 ชั่วโมง

9 อาการเตือนไข้เลือดออก

ไข้เลือดออกในเด็ก มีวิธีดูแลรักษาอย่างไร?

โรคไข้เลือดออกยังไม่มียาที่สามารถรักษาได้โดยตรง ทำได้เพียงรักษาไปตามอาการเท่านั้น การพาลูกไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะโรคนี้ถ้าพบแพทย์ช้าหรือรักษาไม่ทัน อาจทำให้เกิดภาวะช็อก และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

การปฏิบัติตัวขณะป่วย

  1. ดื่มน้ำ หรือน้ำเกลือแร่ ORS ให้เพียงพอ
  2. รับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล ตามขนาดที่แพทย์สั่งเท่านั้น
  3. ห้ามใช้ยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้เลือดออกง่าย และมากขึ้นได้
  4. หากอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ อาเจียนมาก มือเท้าเย็น ควรไปพบแพทย์ทันที
  5. เมื่อมีไข้หากจะอาบน้ำ ให้อาบด้วยน้ำอุ่น หรือเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น เลี่ยงน้ำเย็น

วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ดีต่อเด็กอย่างไร?

วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ครบทั้ง 4 สายพันธุ์ ใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 9 ปี ถึงผู้ที่มีอายุ 45 ปี โดยจะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ที่ 0, 6, 12 เดือน หลังจากฉีดครบแล้ว สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ 65.6% ลดความรุนแรงของโรคได้ 92.9% และลดอัตราการนอนโรงพยาบาลได้ 80.8%

กรมการแพทย์ แนะ! ภูมิคุ้มกัน 3 ชั้น เพื่อป้องกันไข้เลือดออก

นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า การป้องกันโรคไข้เลือดออกสามารถทำได้ 3 ขั้นตอน เปรียบเสมือนเป็นการสร้างเกราะภูมิคุ้มกันถึง 3 ชั้น ดังนี้

เกราะคุ้มกันชั้นที่ 1 คือ การป้องกันตัวเอง และบุตรหลานไม่ให้ยุงกัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เช่น สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทายากันยุง ติดมุ้งลวด นอนในมุ้ง

เกราะคุ้มกันชั้นที่ 2 คือ การช่วยกันกำจัดทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย ปิดฝาอุปกรณ์เก็บกักน้ำ เช่น โอ่ง ไม่ให้ยุงลายวางไข่

เกราะคุ้มกันชั้นที่ 3 คือ การไปพบแพทย์เมื่อป่วยเป็นไข้ ควรติดตามอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ตัวช่วยเสริมภูมิเด็กในหน้าฝน

NUTROPLEX OLIGO PLUS ( นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ) วิตามินรวมสำหรับเด็ก ที่มีส่วนผสมของมัลติวิตามิน ใยอาหารธรรมชาติ กระตุ้นการขับถ่าย เสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี “ไลซีน” ช่วยเพิ่มความอยากอาหารของเด็ก สำหรับเด็กที่กินน้อย กินยาก ไม่ได้กินอาหารครบหมู่ หรือ ไม่กินผักผลไม้เป็นประจำได้ทุกวัน

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส เป็นวิตามินรวมสำหรับเด็กตัวเดียวที่มี “ธาตุเหล็ก” ซึ่งมีส่วนเสริมสร้างและพัฒนาสมอง

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี Oligofructose ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Prebiotic และใยอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยในการปรับสมดุลย์ด้านระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มกากใยให้กับระบบทางเดินอาหาร ป้องกันท้องผูกได้ดี

สั่งซื้อ NUTROPLEX OLIGO PLUS ได้ที่นี่

• แอดไลน์ ID : @nutroplexclub
• Inbox Facebook : https://www.facebook.com/nutroplexclub

หรือสั่งซื้อตามร้านขายยาชั้นนำ เช่น Boots, Health up, Fascino, P&F, Pure, Save Drug, D Chain, Tesco (แผนกร้านขายยา), Drug Core, I Care, Drug Square, Ameditec และทาง ออนไลน์ Konvy.com

 

อ้างอิง : 1. รพ.นครธน 2. กรมการแพทย์ 3. hfocus 4. ม.เชียงใหม่ 4. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close