“ไวรัสซิกา” ป้องกันได้ด้วยหลัก 5อ.

สุขภาพ
1 มี.ค. 19
804

ช่วงที่ผ่านมา ไวรัสซิกา : Zika virus หรือ ไข้ซิกา ได้ระบาดขึ้นในประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด และเพื่อป้องกันตัวเราจากโรคร้ายนี้ GedGoodLife จึงอยากให้ทุกคนมาทำความรู้จักโรคไข้ซิกานี้ว่าคืออะไร และเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองจากไวรัสซิกาด้วยหลัก 5อ. ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

สาเหตุและการแพร่ระบาดของ ไวรัสซิกา

ไข้ซิก้าเกิดจากยุงลายเป็นพาหะนำโรค หากโดนยุงลายที่มีเชื้อไวรัสซิกากัดอาจทำให้ติดเชื้อได้ โดยเชื้อมีระยะฟักตัวประมาณ 4-7 วัน หลังโดนยุงกัด

• ไข้ไวรัสซิกาติดต่อจากแม่สู่ลูก ผ่านทางน้ำนมแม่ในช่วงการให้นมแม่หลังคลอด หรือผ่านรกในระหว่างการตั้งครรภ์
• ไข้ไวรัสซิกาติดต่อผ่านทางเลือด ผ่านการถ่ายเลือด
• ไข้ไวรัสติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผ่านอสุจิด้วยการมีเพศสัมพันธ์

อาการของไวรัสซิกา

ไข้ไวรัสซิกามีอาการคล้ายไข้เลือดออก แต่ไม่รุนแรงเท่าไข้เลือดออก โดยคนทั่วไปอาการเหล่านี้มักจะค่อย ๆ ทุเลาลงภายในหนึ่งสัปดาห์

• มีผื่นแดงจ้ำขึ้นตามตัว
• ปวดหัว มีไข้ขึ้นสูง
• เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง
• อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ
• รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ครั่นเนื้อครั่นตัว

อันตรายของไวรัสซิกาที่แม่ท้องต้องระวัง!

• ไวรัสซิกาทำให้ลูกสมองผิดปกติ การติดเชื้อไวรัสซิการะหว่างตั้งครรภ์อาจทำทารกที่คลอดออกมาเกิดภาวะ “ศีรษะเล็กในเด็กแรกเกิด” (Microcephaly) ได้

• ลูกที่คลอดออกมามีภาวะแทรกซ้อน หากแม่ได้รับเชื้อไวรัสซิการะหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้ทารกที่คลอดออกมามีภาวะแทรกซ้อนด้านระบบประสาท ระบบการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งเป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง

ไวรัสซิกา ป้องกันได้ด้วยหลัก 5 อ.

อ. อย่าให้ยุงกัด เพราะยุงลาย เป็นพาหะนำโรคของไวรัสซิกา ดังนั้นต้องระมัดระวังไม่ให้โดนยุงกัด ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรทายากันยุง และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงที่อยู่ภายในบ้านด้วย แหล่งน้ำในกระถาง แจกัน ท่อระบายน้ำ ต้องปิดให้หมด รวมทั้งฉีดยากันยุงรอบ ๆ บ้าน

อ. อย่านิ่งนอนใจ หากคนท้องที่มีอาการปวดหัว เป็นไข้ มีไข้ขึ้นสูง ผื่นแดงขึ้น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ควรรีบไปหาคุณหมอ อย่านิ่งนอนใจคิดว่าเป็นอาการป่วยทั่วไป โดยเฉพาะถึงไม่ใช่ไข้ไวรัสซิกา ก็อาจป่วยเป็นไข้เลือดออกได้

อ. อย่าเดินทางไปรับเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงเดินทางไปในพื้นที่ หรือประเทศ ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสซิกา โดยเฉพาะแม่ที่กำลังตั้งท้องอยู่ เพราะอาจได้รับเชื้อได้ ต้องคอยติดตามข่าวสารอยู่ตลอดก่อนเดินทาง โดยประเทศที่มีการแพร่ระบาด ส่วนใหญ่คืออยู่ในกลุ่มละตินอเมริกา

อ. อย่ากินยาแอสไพริน

หากมีไข้ให้กินยาพาราเซตามอล บรรเทาปวดตามอาการ
ห้ามกินแอสไพริน และยากลุ่มลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เด็ดขาด เพราะอาจทำให้เลือดออกภายในอวัยวะภายในได้ง่ายขึ้น

อ. อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว อย่าคิดว่าเป็นโรคระบาดที่ไกลตัว คงไม่มีโอกาสติดเชื้อ เพราะปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าของการคมนาคม คนไทย คนต่างชาติเดินทางไปมาจากอีกซีกโลกได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้มีโอกาสที่เชื้อจะแพร่ระบาดมาถึงได้ง่ายขึ้น

ถามหมอออนไลน์ ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่