ป่วยเป็นไข้หวัด ควรกินอะไรดี? เช็ก! อาหารแก้หวัด และยาลดไข้ที่แนะนำ

อาหารสำหรับคนป่วยเป็นหวัด

ไข้หวัด โรคยอดฮิตที่เป็นได้ทั้งปี ยิ่งช่วงไหนอากาศหนาว อากาศเปลี่ยน หรือร่างกายอ่อนแอ ยิ่งทำให้เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลได้ง่าย ส่วนใครที่ป่วยเป็นหวัดบ่อย และกำลังสงสัยว่า “ป่วยเป็นไข้หวัด ควรกินอะไรให้หายดี?” วันนี้ GED good life มีคำตอบมาฝากแล้ว และเมื่อไหร่ที่เป็นหวัด ให้นึกถึง “ยาแก้หวัดสูตรผสม” ที่บรรเทาหวัด น้ำมูกไหลจากภูมิแพ้ ได้ในเม็ดเดียว

ดีคอลเจน ชนิดเม็ด (Decolgen tablets) บรรเทาหวัด น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ และเป็นไข้

ป่วยเป็นไข้หวัด ควรกินอะไรดี?

ผู้ป่วยไข้หวัดจากไวรัส มักจะหายได้ภายใน 3 วัน และในบางครั้งอาจใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์ในผู้ป่วยที่เป็นมาก หรือร่างกายอ่อนแอ มีโรคประจำตัว ด้วยเหตุนี้ การดูแลโภชนาการของคุณในช่วงเวลาที่ป่วยไข้ไม่สบายอยู่นี้ จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น GED good life ได้ลิสต์รายการ “อาหารต้านหวัด” ที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วที่สุดมาให้แล้ว!

1. ซุปไก่ร้อน ๆ ใส่ผักสักหน่อยช่วยไล่หวัดได้ดี

ซุปไก่ คือเมนูเด็ดแก้ไข้หวัดที่แนะนำโดยแพทย์ทั่วโลก เพราะนอกจากจะเหมาะสมกับทุกวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่แล้ว ซุปไก่ยังมีงานวิจัยว่า สามารถบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ทำให้หายใจคล่องขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดการไอซ้ำซ้อนได้อีกด้วย และซุปไก่ไม่ใช่แค่ช่วยแก้หวัด แต่ยังช่วยบรรเทาอาการทั่วไปของโรคเหล่านี้ได้ เช่น เจ็บคอ ไอมีเสมหะ และเบื่ออาหาร เป็นต้น

นอกจากนี้เรายังสามารถใส่สมุนไพรต้านหวัด เช่น กระเทียม หอมใหญ่ หอมแดง กระเพรา พริกไทย ตะไคร้ ข่า เป็นต้น เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการต้านหวัด และคุณค่าทางอาหาร แถมได้รสชาติที่ดีขึ้น

2. อาหารรสเผ็ด แก้หวัด คัดจมูก

รสเผ็ดจากสารแคปไซซิน (Capsaicin) ที่มีอยู่ในพริกชนิดต่าง ๆ และสมุนไพรรสเผ็ดร้อนอื่น ๆ จะช่วยให้จมูกโล่ง หายคัดจมูก สังเกตกันไหมว่าพอเราทานเผ็ดจะทำให้น้ำมูก น้ำตาไหลได้ง่าย นั่นก็เพราะฤทธิ์ของสารแคปไซซินนั่นเอง นอกจากนี้สารแคปไซซินยังสามารถช่วยป้องกันไข้หวัด ลดน้ำมูก ละลายเสมหะ ทำให้หลอดลมขยายตัวได้ดี และการกินเผ็ดยังเป็นผลพลอยได้ให้เราได้ดื่มน้ำเยอะขึ้น และน้ำยังช่วยเยียวยาร่างกายให้หายจากหวัดได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยกรดไหลย้อนอาจต้องระวังการกินเผ็ดสักนิด เพราะอาจทำให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบได้… อ่านเพิ่มเติม -> 1. ป่วยกรดไหลย้อน สามารถกินเผ็ดได้มั้ย? พร้อมแนะ! ยาลดกรด บรรเทากรดไหลย้อน

3. ดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยไล่หวัดได้ดี

ผู้ป่วยไข้หวัด ควรจิบน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องให้ได้ทั้งวัน เพราะน้ำสามารถช่วยเยียวยาร่างกายให้หายจากหวัดได้ เช่น ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายให้เย็นลง ช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อ และอักเสบ ช่วยละลายเสมหะไม่ให้เหนียว โดยเฉพาะการได้ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งมะนาว

ส่วนใครที่มีอาการเจ็บคอร่วมด้วย สามารถบรรเทาอาการโดยใช้เกลือละลายน้ำอุ่นกลั้วคอ 2-3 วันติดต่อกัน ช่วยให้อาการจะทุเลาลงได้

อ่านเพิ่มเติม -> 10 ประโยชน์จากการดื่มน้ำ

4. จิบชาบ่อย ๆ ต้านอนุมูลอิสระดีนักแล

โดยเฉพาะชาเขียวอุดมไปด้วยสาร epigallocatechin gallate (EGCG) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการขับสารพิษในร่างกายช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีศักยภาพในการป้องกันความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ โดยมีความแรงของการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซี 100 เท่า และวิตามินอี 25 เท่า การบริโภคชาเขียวเป็นประจำ สามารถลดความเสี่ยงของไข้หวัดลงได้ครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังอาจบรรเทาอาการไข้หวัด และช่วยให้คุณฟื้นตัวเร็วขึ้น

5. กระเทียม ป้องกันและรักษาโรคหวัด

สารอัลลิซิน (allicin) ในกระเทียมช่วยต้านหวัดได้ เพราะมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านไวรัส ต้านออกซิเดชั่น และต้านการอักเสบ เหมาะที่จะทานเป็นอาหารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเบื้องต้นได้ มีงานวิจัยระบุว่า กระเทียมอาจป้องกันการเกิดโรคหวัดได้ ทำให้ฟื้นตัวจากโรคหวัดได้ดีขึ้น

ข้อควรระวัง! ถึงกระเทียมจะมีสรรพคุณมาก แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ กระเทียมทำให้ลมหายใจ และร่างกายมีกลิ่น ในบางรายอาจมีอาการแพ้จากการใช้กระเทียมได้ด้วย จึงควรรับประทานแต่พอเหมาะ กรมการแพทย์แผนไทย แนะนำให้ทาน กระเทียมสด 2.5 กรัม/วัน

6. กินผลไม้รสเปรี้ยว และเบอร์รี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว และเกรปฟรุต มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และวิตามินซีในปริมาณสูง สารเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบ และเพิ่มภูมิคุ้มกันซึ่งอาจช่วยต่อสู้กับไข้ได้ แต่อย่าลืมว่าผลไม้ก็มีน้ำตาลในปริมาณสูง ฉะนั้นแนะนำให้ดื่มแต่พอประมาณ และไม่ควรเติมน้ำตาลเพิ่มเข้าไป

7. ผักใบเขียว ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

นอกจากผลไม้รสเปรี้ยวแล้ว ผักใบเขียวยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับอาหารลดไข้จากไวรัส ตัวอย่างเช่น ผักโขม บรอกโคลี กะหล่ำปลี และผักใบเขียวอื่น ๆ ที่มีวิตามินเอสูงซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ผักเหล่านี้ยังมีวิตามินอีซึ่งช่วยเติมพลังให้กับร่างกายของคุณ ดังนั้น เพื่อบำรุงร่างกายให้กินผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหล่านี้เข้าไว้

8. ไข่ต้ม มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ในราคาแสนประหยัด

ปริมาณโปรตีนในไข่ให้พลังงาน ในขณะที่วิตามินบี 6 บี 12 สังกะสี และซีลีเนียมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิธีที่ง่ายที่สุดในการกินไข่ในช่วงเป็นไข้ คือการต้มไข่แล้วทำสลัดไข่ หรือจะกินพร้อมกับข้าวต้มร้อน ๆ ก็ได้

อ่านเพิ่มเติม -> 20 ประโยชน์ของไข่ไก่ กินได้ทุกวัน ห่างไกลหมอ

ป่วยเป็นไข้หวัด ควรกินอะไรดี

เป็นหวัด น้ำมูกไหล มีไข้ จบได้ด้วย “ยาแก้หวัดสูตรผสม”

รู้หรือไม่ว่า ผู้ป่วยไข้หวัดมักมีอาการแพ้ร่วมด้วย เพราะเมื่อติดเชื้อหวัด ร่างกายจะตอบสนองต่อเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาด้วยการหลั่งสารฮีสตามีน ซึ่งจะกระตุ้นทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ของโรคภูมิแพ้ เช่น อาการจาม น้ำมูกไหล ไอ คันตา หรือน้ำตาไหล เพื่อปกป้อง และกำจัดเชื้อโรคให้ออกไปจากร่างกาย

หากคุณมีอาการแพ้ ร่วมกับมีไข้ สามารถเลือกซื้อยา ยาแก้หวัดสูตรผสม ที่มีตัวยา “คลอร์เฟนิรามีน มาลีเอต” ที่มีสรรพคุณแก้แพ้ และ “ยาพาราเซตามอล” ที่มีสรรพคุณบรรเทาหวัด ลดไข้ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาแก้หวัดสูตรผสมกลุ่มนี้ คือ ดีคอลเจน ชนิดเม็ด (Decolgen)

ขนาดรับประทานสำหรับยาแก้หวัดสูตรผสม

  • ผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ  2 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง
  • เด็กอายุ 7-12 ปี รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง
  • เด็กที่อายุต่ำกว่า 7 ปี ควรใช้ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ เนื่องยังไม่มีข้อมูลในการใช้ยาในเด็กที่อายุต่ำกว่า 7 ปี

ผลข้างเคียงที่สามารถพบได้บ่อย คือ อาการง่วงนอน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการเรียน และการทำงาน จึงอาจเปลี่ยนชนิดการใช้ยาเป็นยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่ง่วงนอนในช่วงเวลากลางวัน และใช้ยาสูตรผสมในเวลากลางคืนแทน

พาราเซตามอล+คลอร์เฟนิรามีน

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้  ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่

อ้างอิง : 1. สมุนไพรอภัยภูเบศร 2. sfgate 3. bangkokbiznews 4. timesofindia 5. medicalnewstoday 6. pobpad

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close