เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝน ทำง่ายไม่เป็นหวัด

เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝน

สายฝนเย็นฉ่ำที่โปรยปรายลงมา คงทำให้หลายคนได้ชื่นใจขึ้น หลังจากที่ต้องทนกับความร้อนระอุมานาน แต่ด้วยอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปอย่างมาก รวมถึงความชื้นที่เพิ่มขึ้น กลับเป็นโอกาสดีที่เหล่าเชื้อโรคจะได้เจริญเติบโต และแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว จนทำให้เราป่วยกันได้ง่าย วันนี้ GED good life จึงขอแนะนำ เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝน ให้ทุกคนได้ลองนำไปทำตาม เพื่อห่างไกลไข้หวัดกัน

ดีคอลเจน

เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝน

• ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ

ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตรทุกวัน เพื่อเติมน้ำเข้าสู่กระแสเลือด น้ำจะช่วยรักษาสมดุลของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ลดโอกาสการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจเข้าสู่ร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และทำให้เซลล์ภายในร่างกายไม่ขาดน้ำ อีกทั้งการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ยังช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุล และไม่เป็นหวัดได้ง่ายอีกด้วย

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

คนในวัยผู้ใหญ่ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้มีโอกาสซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในระหว่างที่กำลังนอนหลับ การนอนหลับแต่หัวค่ำยังช่วยเพิ่มโอกาสในการหลั่งโกรธ์ฮอร์โมน หรือฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์ให้เพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ การอดนอนหรือนอนดึก ยังทำให้อวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดการพิษออกจากร่างกาย อย่างตับและไต ลดประสิทธิภาพในการทำงานลง ส่งผลให้ร่างกายมีสารพิษตกค้างอยู่มาก

• พกร่ม และเสื้อกันฝนเสมอ

ในช่วงหน้าฝนที่ฝนตกบ่อบ และมีโอกาสตกอยู่เสมอแบบนี้ อย่าลืมพกร่ม หรืออุปกรณ์กันฝนอื่น ๆ ติดตัวทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเปียกฝน และลดโอกาสเสี่ยงในการ เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ลง

• รักษาร่างกายให้แห้งอยู่เสมอ

หากคุณเปียกฝนไปแล้วละก็ อย่าลืมทำตัวให้แห้งอยู่เสมอ เมื่อเปียกฝนมาใหม่ๆ ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการปอดบวมหรือโรคผิวหนัง

• ไม่เข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เป็นจุดศูนย์รวมของเชื้อโรคนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ฉี่หนู ที่สามารถทำให้เป็นโรคฉี่หนูได้ หรือพยาธิต่างๆ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายก็จะทำให้ปวดท้อง และแพร่ไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถอยู่ในร่างกายได้นานหลายสิบปี และแพร่พันธุ์ได้ง่ายอีกด้วย จึงอันตรายมาก หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังได้ ควรใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น รองเท้าบู๊ทยาง หรือถุงมือยาง ทุกครั้ง

ดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝน

• ระวังป้องกันไม่ให้ยุงกัด

โรคไข้เลือดออกระบาดได้ง่ายมากในช่วงหน้าฝน ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่มีความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ การป้องกันไว้ก่อนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ควรทายากันยุงหรือนอนกางมุ้ง รวมหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่มืดและอับชื้นที่ยุงชอบอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้ยุงกัด

• ใช้น้ำมันยูคาลิปตัสบรรเทาอาการ

คัดจมูกเมื่อ คัดจมูกหายใจไม่ออก หรือหายใจไม่สะดวก ควรใช้น้ำมันยูคาลิปตัส เพราะน้ำมันยูคาลิปตัส มีคุณสมบัติช่วยให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แก้คัดจมูก ลดเสมหะและสารพิษและจุลินทรีย์ที่อาจทำให้เกิดโรคในร่างกาย น้ำมันยูคาลิปตัสจึงมีฤทธิ์ทั้งในการรักษาและป้องกันโรคไปพร้อมกัน

• กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่

ควรเลือกทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ เพื่อช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลลินทรีย์ ที่ก่อนให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารและลำไส้ เช่น อาหารเป็นพิษ และควรเน้นทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

• ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ

หนึ่งในวิธี แก้หวัด ในวันที่ฝนตกและมีอากาศหนาวเย็น คือ การดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ เช่น ชาสมุนไพร จะนอกจากจะช่วยคลายความหนาวเย็นให้กับร่างกายแล้ว ชาสมุนไพรต่างๆ ยังมีคุณสมบัติในการต้านการเกิดการอักเสบ ป้องกันไม่ให้ เป็นหวัดคัดจมูก ลดน้ำมูก แก้เจ็บคอ รวมถึงป้องกันการติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย

• ออกกำลังกายอยู่เสมอ

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะร่างกายที่แข็งแรง ย่อมเป็น ยาแก้หวัดที่ดีที่สุด

แม้ว่าหน้าฝนจะเป็นช่วงที่ล้มป่วยได้ง่าย แต่ถ้าคุณ ดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝน เป็นอย่างดี รวมทั้งรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า แค่นี้ ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีโรคภัยไข้เจ็บอะไรมากวนใจในหน้าฝนได้อีกแล้ว

5 กลุ่มโรค ที่ต้องระวังหน้าฝนนี้!

1. โรคติดต่อเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องร่วง อาหารเป็นพิษ ไทฟอยด์ บิด และการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ และบี

2. โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม ปอดอักเสบ ภูมิแพ้

3. โรคติดต่อที่เกิดจากยุง เช่น ไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ มาลาเรีย

4. โรคติดเชื้อทางบาดแผล และโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น แลปโตสไปโรซิส ผด ผื่น เชื้อรา น้ำกัดเท้า

5. โรคเยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close