จุก แน่นหน้าอก เรอ เกิดจากอะไร เสี่ยงโรคหัวใจหรือไม่?

จุก แน่นหน้าอก

จุก แน่นหน้าอก ลามถึงคอ หายใจไม่ค่อยอิ่ม บางครั้งก็เรอ ใครที่มีอาการเหล่านี้อยู่… GED good life จะพาไปไขคำตอบคลายข้อสงสัยนี้ไปพร้อม ๆ กัน

จุก แน่นหน้าอก เรอ อาการเหล่านี้มีสาเหตุจากอะไร?

1. โรคกรดไหลย้อน

เป็นโรคอันดับแรกที่ควรนึกถึง เพราะ คนป่วยด้วยโรคนี้กันเยอะ โรคกรดไหลย้อน เป็นภาวะที่กรด หรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ย้อนกลับมาที่หลอดอาหาร จึงมีอาการแสบร้อนหน้าอก มีอาการจุกแน่นหน้าอกขึ้นมาถึงคอ และมีอาการเรอ

2. อาการป่วยแพนิค

หรือโรคตื่นตระหนก เป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งระบบประสาทนี้ทำให้เกิดอาการได้หลายอย่าง และยังสัมพันธ์กับโรคกรดไหลย้อนอีกด้วย ทำให้มีอาการ ใจสั่น แน่นหน้าอก ปั่นป่วนในท้อง และรู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง

3. ภูมิแพ้

ภูมิแพ้ทำให้เรามีอาการ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เรอ ได้เช่นกัน เพราะ สารก่อภูมิแพ้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานและหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ออกมา จึงทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามที่กล่าวไป ผู้ป่วยภูมิแพ้จึงควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เพื่อไม่ให้อาการกำเริบ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหอบหืด

4. ลิ่มเลือดอุดตันในปอด

แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกกลัว แต่ไม่ใช่จะเกิดบ่อยกับคนทั่วไป มักเกิดกับผู้ที่ผ่านการผ่าตัดใหญ่มาก่อน ประสบอุบัติเหตุโดยเฉพาะกระดูกหัก หรือเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น ผู้ป่วยมักจะหายใจหอบ เหนื่อย ไอ เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก ผู้ป่วยอาจมีอาการแย่ลงในขณะที่หายใจเข้าลึก ๆ เมื่อไอ รับประทานอาหาร ตอนที่โค้ง หรืองอตัว

5. กระเพาะอาหารอักเสบ

เป็นโรคที่พบได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ทั้งเพศหญิงและชาย สามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในเวลาอันรวดเร็ว มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร (H.pylori) ภาวะความเครียด ความวิตกกังวล และปัจจัยอื่น ๆ โรคนี้ทำให้มีอาการปวดท้องแบบเฉียบพลัน จุกแสบ จุกแน่น บริเวณใต้ลิ้นปี่ (บางรายปวดแน่นถึงหน้าอก) และอาจมีอาการคลื่นไส้ เรอเปรี้ยวร่วมด้วย

จุก แน่นหน้าอก

แน่นหน้าอกบ่อย ร่วมกับอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคหัวใจ!

หากคุณมีอาการแน่นหน้าอกบ่อย พร้อมกับอาการเหล่านี้ ควรเข้าพบแพทย์ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจ ที่สามารถทำให้เสียชีวิตกระทันหัน อย่างเช่น ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน

  • อาการสำคัญ คือ เจ็บหน้าอก รู้สึกแน่น จุก เหมือนมีวัตถุกดทับที่บริเวณหน้าอก อาจร้าวไปที่กราม แขน ไหล่ หรือลิ้นปี่
  • รู้สึกเหนื่อยง่าย หายใจเร็ว หายใจไม่อิ่ม จนอาจทำให้พูดไม่ได้ หรือมีเสียงดังเวลาหายใจ
  • มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ โดยอาจเกิดร่วมกับอาการแน่นหน้าอก หน้ามืด หรือเป็นลม
  • บวมตามแขน ขา เท้า เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงขาไม่สะดวก
  • หน้ามืด เป็นลม โดยในขณะนั้นอาจเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น

แน่นหน้าอก จากกรดไหลย้อน กับ หัวใจวาย แตกต่างกันยังไง?

แน่นหน้าอกจาก “กรดไหลย้อน” – จะมีอาการเจ็บหน้าอกเวลาหายใจลึก ๆ หรือไอ แต่ไม่ร้าวไปบริเวณที่ไหล่ แขน หรือขากรรไกร มักเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารหรือขณะนอนราบ หรืองอตัว

แน่นหน้าอกจาก “โรคหัวใจ” – รู้สึกเจ็บร้าวจากอกไปที่ลำคอ ขากรรไกร ไหล่และแขนซ้าย มักพบบ่อยในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง เบาหวาน มีน้ำหนักเกิน เป็นต้น

คำแนะนำในการดูแลรักษาตัวเอง

ตามที่ชี้แจงไปข้างต้นว่าเมื่อมีอาการ จุก แน่นหน้าอก รู้สึกเหมือนมีน้ำมาอยู่ที่คอ ขมคอ ให้โฟกัสไปที่ “โรคกรดไหลย้อน” เป็นสำคัญ และควรดูแลตนเองดังนี้

1. หลีกเลี่ยงอาหารที่แสลงต่อโรคกรดไหลย้อน เช่น ของทอด ของมัน พริก อาหารหรือผลไม้ที่มีกรดสูง เป็นต้น

2. ไม่เครียดจนเกินไป เพราะ ความเครียดมีผลทั้งทำให้การหลั่งกรดในกระเพาะมากขึ้น ทำให้กรดไหลย้อนรุนแรงขึ้น

3. ยกหัวเตียงสูงขึ้น 8 นิ้ว ด้วยการเอาหนังสือ หรือก้อนอิฐเสริมขาเตียงด้านศีรษะทั้งสองขาให้สูงขึ้น หรือไปซื้อฟูกรักษากรดไหลย้อนก็ช่วยได้

4. รักษาด้วย ยาลดกรด ยาประเภทนี้จะมีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน ปวดท้อง และอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรดไหลย้อน และแผลในกระเพาะอาหาร

ทั้งนี้หากคุณมี อาการจุกแน่นหน้าอก หรือแสบร้อนกลางอก กินยาลดกรดแล้วไม่ดีขึ้น และไม่แน่ใจว่าเกิดจากโรคหัวใจ หรือโรคระบบทางเดินอาหาร ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยพร้อมรักษาอย่างทันท่วงที

 

อ้างอิง : 1. รพ. บางปะกอก3 2. รพ. เวชธานี 3. รพ. พญาไท 4. nursesoulciety 5. salika

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close