10 คำถามเรื่องเพศ ปัญหาร้อนใจ ที่ต้องเคลียร์ด่วน!

หลายคนกล่าวว่าเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่พอมีปัญหาขึ้นมาจากการมีเพศสัมพันธ์ คนไข้มักจะไม่กล้าไปถามหมอเองที่คลินิก เพราะเขิลอายไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ บอร์ดถามปัญหาสุขภาพออนไลน์ จึงเป็นที่นิยมสำหรับคนไข้ในการสอบถามปัญหาเรื่องเพศ โดยวันนี้เราได้รวบรวม 10 คำถามเรื่องเพศ จากหน้า ASK EXPERT ปรึกษาปัญหาสุขภาพ จะมีเรื่องเสียว ๆ แสบ ๆ คัน ๆ คาใจอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันเลย!

ดีคอลเจน

10 คำถามเรื่องเพศ ปัญหาร้อนใจ ที่ต้องเคลียร์ด่วน!

คำถามที่1 : มีโอกาสท้องมั้ยคะ ?

คือครั้งแรกหนูมีพสผ.กะแฟนแบบไม่ป้องกันอะค่ะ แต่กินยาคุมฉุกเฉินหลังจากมีอะไรกัน กลับมาบ้านมีเลือดออกจากช่องคลอดเล็กน้อย 2 วัน อะค่ะ พอวันที่ 3 ก็มีเลือดเหมือนปจดมา 4-5 วัน (คาดว่าน่าจะเป็นปจด เพราะปกติจะมาช่วงนั้นพอดีค่ะ) พออีกอาทิตย์นึงก็มีพสผแบบเดิมอีก กินยาคุมเหมือนเดิมค่ะ ทีนี้ผ่านมา 5 วัน คือ วันนี้ตื่นมาตอนเช้ามีเลือดออกทางช่องคลอดเหมือนปจด.เยอะอยู่อะค่ะ แต่ตอนนี้เลือดลดลงแล้วว มีโอกาสท้องมั้ยคะ ?

GedGoodLife ตอบคำถาม :

ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆ ดังนี้นะคะ

1. การรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง ต้องรับประทานหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกไม่เกิน 24 -72 ชม. หากเกินกว่านั้น จะไม่มีประโยชน์ค่ะ และหากคนไข้รับประทานถูกต้อง ก็จะไม่ท้องค่ะ

2. การที่มีเลือดออกกระปิดกระปอย และอาการปวดเสียวท้องน้อย ที่คล้ายกับการมีประจำเดือน สืบเนื่องสาเหตุมาจากผลข้างเคียงของการรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ

อย่างไรก็ตามการรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ควรเกินเดือนละ 1 ครั้งนะคะ เพราะเป็นฮอร์โมนระดับสูงมาก เพราะจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปากมดลูกนะคะ

อ่านบทความเพิ่มเติม : “ยาคุมฉุกเฉิน” กินอย่างไรให้ถูกต้อง และไม่ท้อง!?

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/2UsR7Cc


คำถามที่ 2 : อาการแสบที่ปลายอวัยวะเพศ

พอดีผมมีอาการแสบที่ปลายอวัยวะเพศ อะครับ คือมันแสบมาจะเป็นอาทิตย์แล้วอะครับ เวลาปัสสาวะจะมีอาก

ารแสบมากๆเลยอะครับ อยากทราบว่ามันคืออาการของโรคอะไรอะครับ ?

GedGoodLife ตอบคำถาม :

อาจจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะได้ค่ะ คนไข้ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียติดค่อกัน 2 สัปดาห์ และดื่มน้ำมาก ๆ รวมถึงรักษาความสะอาดค่ะ โดยมากสาเหตุเกิดจากการมีเพศสัมมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย หรือ การไม่รักษาความสะอาด และมีการอับชื้นของอวัยวะเพศค่ะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/3dRPBkS


คำถามที่ 3 : ประจำเดือนมาสองรอบ

มีอะไรกับเเฟนวันที่ 7/ 05/ 63 ไม่ได้ป้องกันเเต่หลั่งนอกค่ะ เเล้วกินยาคุมฉุกเฉินวันที่ 14/07/63 ประจำเดือนมาถึงวันที่ 18/05/63 เเล้ววันที่ 19/05/63 มีอะไรกันอีกครั้งโดยใส่ถุงเเล้ววันที่ 24-25/05/63 มีเลือดสีน้ำตาลออกมาไม่เยอะวันที่ 26/05/63 เลือดออกมาเหมือนประจำเดือนมีอาการปวดท้องน้อยเหมือนตอนประจำเดือนมาปกติ เลือดที่ออกมาเป็นสีเเดงสด

อยากรู้ว่ามันเป็นเพราะยาคุมฉุกเฉินหรือเป็นอะไรคะ?

GedGoodLife ตอบคำถาม :

ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆ ดังนี้ นะคะ

1. การรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง ต้องรับประทานหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกไม่เกิน 24 -72 ชม. หากเกินกว่านั้น จะไม่มีประโยชน์ค่ะ

2. การที่ประจำเดือนของคนไข้มาวันที่ 18 แปลว่าไม่ตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์วันที่ 7 นะคะ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์วันที่ 19 ยังอยู่ในช่วงปลอดภัย ดังนั้นโอกาสตั้งครรภ์จึงแทบไม่มีค่ะ

3. การที่คนไข้เหมือนมีประจำเดือน 2 รอบ ที่มีเลือดออกกระปิดกระปอย และอาการปวดเสียวท้องน้อย สืบเนื่องสาเหตุมาจากผลข้างเคียงของการรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ

อย่างไรก็ตามการรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ควรเกินเดือนละ 1 ครั้งนะคะ เพราะเป็นฮอร์โมนระดับสูงมาก เพราะจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปากมดลูกค่ะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/3cMj52c


คำถามที่ 4 : ประจำเดือนขาด

มีการหลั่งในโดยที่เอาออกไม่ทันเลยกินยาคุมฉุกเฉินจากนั้นมีการหลั่งในอีกครั้งหลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจึงทานต่อแต่เป็นแบบธรรมดา 28 เม็ด (ใน1เดือนนั้น) และตอนนี้ประจำเดือนขาดเดือนนี้เดือนที่สอง มีอาการปวดเสียวระหว่างท้องน้อยและช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์จะรู้สึกเจ็บเสียดนิดหน่อยตอนนี้รู้สึกเครียดมากค่ะ ไม่มีอาการอื่นร่วมด้วยนอกเหนือจากนี้ ขอคำแนะนำจากหมอด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

คำถามเรื่องเพศ

GedGoodLife ตอบคำถาม :

ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆ นะคะ

1. การรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง และให้ผลดีที่สุดคือ กินหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 24 ชม. ค่ะ ถ้ารับประทานถูกต้อง แม้มีเพศสัมพันธ์หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกภายใน 48 ชม. ยังคงปลอดภัยอัตราการท้องต่ำค่ะ แต่ยาคุมฉุกเฉินไม่ควรใช้บ่อยนะคะ 1 เดือนต่อครั้งก็ค่อนข้างมากแล้วค่ะ ถารใช้บ่อย แนะนำการป้องกันแบบยาคุมชนิดรายเดือนค่ะ

2. การป้องกันการมีเพศสัมพันธ์แบบยาคุมรายเดือนที่คนไข้รับประทานนั้น วิธีรับประทานที่ถูกต้องจะต้องรับประทานเม็ดแรกวันแรกของการมีประจำเดือนค่ะ จากนั้นถ้าแบบ 28 วัน รับประทานแผงใหม่หลังหมดแผงแรกได้ทันที และต้องรับทานต่อเนื่องยาว 2 เดือนเป็นต้นไป ถึงจะมีผลด้านคุมกำเนิดนะคะ ระหว่างนั้นต้องป้องกันด้วยวิธีอื่น ๆ คือ การสวมถุงยางอนามัยค่ะ

3. การที่คนไข้มีอาการปวดเสียว เพราะรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ ซึ่งยาคุมประเภทนี้ฮอร์โมนสูง ทำให้เกิดอาการข้างเคียงดังกล่าว ประกอบกับรับประทานยาคุมรายเดือนเพิ่มไปอีก ผลข้างเคียงดังกล่าวจึงมีอาการมากขึ้นค่ะ แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรค่ะ

4. คำแนะนำ ให้คนไข้หยุดยาคุมแบบรายเดือนก่อน ถ้าไม่ได้เริ่มรับประทานเม็ดแรกในวันที่ประจำเดือนมาวันแรก และให้เริ่มแผงใหม่ ในวันแรกของการมีประเดือน ระหว่าง 2 แผงแรกของยาคุม ให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันควบคู่ไปด้วยค่ะ จะทำให้ปลอดภัย และ เพิ่มประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดได้ดีค่ะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/37iyNRs


คำถามที่ 5 : มีอาการเจ็บ ๆ เสียว ๆ เป็นพัก ๆ บริเวณช่องคลอด

ก่อนหน้านี้มีประจำเดือนประมาณวันที่ 20 แล้วมีอาการเจ็บๆเสียวๆเป็นพักๆบริเวณช่องคลอดไปถึงข้างในขณะที่เป็นประจำเดือนด้วย

แล้ววันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค มีอะไรกับแฟน พอวันจันทร์ตอนช่วงดึก มีเลือดออกทางช่องคลอด ปริมาณปานกลาง พอวันอังคาร ไม่มีเลือดออกทางช่องคลอด แต่ปวดท้องน้อย ส่วนวันพุธมีเลือดออกเปื้อนกางเกงใน มีอาการเจ็บ ๆ เสียว ๆ บริเวณรูปัสสาวะ รู้สึกปัสสาวะไม่สุด เสียว ๆเจ็บ ๆ เป็นพัก ๆ ตลอด เป็นคนกลั้นปัสสาวะบ่อยด้วย แบบนี้คืออาการอะไรคะ?

GedGoodLife ตอบคำถาม :

ลักษณะคล้าย ๆ ปวดหน่วงหรือเปล่าคะ? ต้องลองสังเกตว่าเลือดออกจากช่องคลอด หรือทางเดินปัสสาวะค่ะ แต่เท่าที่อ่านอาการมาน่าจะเกิดจากการ ติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ แล้วเกิดการเสียดสีทำให้เกิดเลือดออกมา ดังนั้น อาจตัองรับประทานยาฆ่าเชื้อทางเดินปัสสาวะ และ งดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนนะคะ ส่วนยาลองไปปรึกษาที่ร้านยาหรือเภสัชกรได้เลยค่ะ

คำถามเรื่องเพศ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/37iyNRs


คำถามที่ 6 : กลัวท้องมาก ๆ

มีการหลั่งในโดยที่เอาออกไม่ทันเลยกินยาคุมฉุกเฉิน จากนั้นมีการหลั่งในอีกครั้งหลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจึงทานต่อแต่เป็นแบบธรรมดา 28 เม็ด (ใน1เดือนนั้น) และตอนนี้ประจำเดือนขาดเดือนนี้เดือนที่สอง มีอาการปวดเสียวระหว่างท้องน้อย และช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์จะรู้สึกเจ็บเสียดนิดหน่อยตอนนี้รู้สึกเครียดมากค่ะ ไม่มีอาการอื่นร่วมด้วยนอกเหนือจากนี้ ขอคำแนะนำจากหมอด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

GedGoodLife ตอบคำถาม :

สวัสดีค่ะ อาการที่แจ้งมา เป็นส่วนหนึ่งในอาการของการตั้งครรภ์ แต่อยากให้สังเกตในเรื่องของประจำเดือน การเบื่ออาหาร การแพ้ท้อง อารมณ์แปรปรวน หากไม่แน่ใจ แนะนำให้ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจนะคะ

รู้สึกคัดเต้านม : เนื่องจากเต้านมจะเกิดการเปลี่ยนแปลง อาจจะรู้สึกคัดตึงคล้าย ๆ ก่อนมีประจำเดือนหรือเสียวจี๊ด ๆ ซึ่งอาการนี้จะเกิดขึ้นได้หลังจากที่ประจำเดือนเริ่มขาดประมาณ 1 สัปดาห์

ท้องป่อง : เมื่อเห็นท้องที่นูนชัดขึ้น นั่นไม่ได้หมายความว่าจะตั้งท้องเสมอไป แม้ว่าอาจจะใช่ในบางกรณี แต่บางครั้ง การท้องอืดจากการรับประทานอาหารมากเกินไปก็นำมาซึ่งท้องที่ป่องได้เช่นกัน (อย่างไรก็ตามอาจจะป่องจากการมีเด็กอยู่ในมดลูกด้วยก็เป็นได้)

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/2BJZtia


คำถามที่ 6 : ปวดแสบร้อนที่อวัยวะเพศมากกกก

ถามเเทนนะคะ เค้าเป็นผช.ค่ะ มีอาการปวดที่อวัยวะเพศมาก ๆ เวลาปัสสาวะจะเจ็บ เเสบร้อนเลยค่ะ เเต่พอเสร็จก็ทรมานมากค่ะ ปวดมากจนนอนไม่ได้ มีอาการจุกที่อัณฑะ และปวดหลังร่วมด้วยค่ะ อยากทราบว่าอาการที่เป็นอยู่มันเกี่ยวข้องกันมั้ยคะ เป็นโรคอะไร ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบรึป่าวคะ พอดีเค้าเป็นทหารน่ะค่ะ ออกค่ายมาหาหมอไม่ได้เพราะอยู่ในช่วงวิกฤตแบบนี้ พอจะมียาอะไรที่ทำให้อาการดีขึ้นมั้ยคะ

GedGoodLife ตอบคำถาม :

ลักษณะอาการดังกล่าวเป็นได้หลายโรคนะคะ ทั้งกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ติดเชื้อ หรือ อาการไส้เลื่อนค่ะ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับอาการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดค่ะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/2UtEarY


คำถามที่ 7 : มีมูกปนเลือดออกมาจากช่องคลอด

นู๋อายุ18 ไม่มีลูก แต่ได้ไปฉีดยาคุมไว้เกือบเดือนแล้ว อยู่ ๆ ก็มีมูกปนเลือดออกมา 1 วัน แต่ตกขาวแต่เป็นสีน้ำตาลคล้ายเลือดมาบ่อย ไม่ทราบว่าเป็นอะไร กลัวจะท้องมาก เพราะมีอะไรกับแฟนปล่อยในตลอดเลยค้า

GedGoodLife ตอบคำถาม :

น่าจะเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาคุมแบบฉีดค่ะ ที่มีผลทำให้เกิดการหลุดลอกของผนังมดลูกค่ะ คนไข้ไม่ต้องกังวงนะคะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/3dROHoj


คำถามที่ 8 : เจ็บอวัยวะเพศเเละปวดแบบหน่วง ๆ เป็น ๆ หาย ๆ เวลาปัสสาวะ จะเเสบขัด เกิดจากสาเหตุไรคะ?

เจ็บอวัยวะเพศมากคืออยู่เฉยไม่ได้ค่ะ มันรู้สึกหน่วง ๆ เกร็ง ๆ เเบบบอกไม่ถูก เวลา ปัสสาวะจะมีอาการปวดร่วมด้วยเเสบขัดด้วยค่ะ รู้สึกไม่สบายตัว สาเหตุเพราะอะไรค่ะเป็น ๆ หาย ๆ เเล้วก็กลับมาเป็นอีกทรมารมากค่ะ

GedGoodLife ตอบคำถาม :

เกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะค่ะ คนไข้อาจทานน้ำน้อย หรือ กลั้นปัสสาวะ หรือ ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือ การเข้าห้องน้ำก็ได้ค่ะ ควรไปที่ร้านยา แจ้งให้เภสัชกรทราบเพื่อซื้อยาสำหรับฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แล้วดื่มน้ำมาก ๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ และรักษาความสะอาดระหว่างเข้าห้องน้ำ รวมถึงการใส่ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์นะคะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/30vMQSf


คำถามที่ 9 : แบบนี้จะท้องไหมคะ?

พอดีขอสอบถามหน่อยนะคะ เรามีเพศสัมพันธ์ กันวันที่ 12 เดือนพฤษภา หลังไข่ตกได้ประมาณ 6 วันค่ะ เเตกในนะคะ เเล้วกินยาคุมฉุกเฉินไป นับตั้งเเต่ วันที่กินไปจนถึง วันที่ 27 ประจำเดือนยังไม่มา แบบนี่จะท้องไหมคะ ปกติกินยาคุมฉุกเฉิน ไม่เกิน 12 วัน จะมาเเล้วค่ะ เเต่ตอนนี้ยัง ไม่มาช่วงนี้ นอนน้อยด้วย กินอาหารไม่ตรงเวลา มีความเสี่ยงที่จะท้องไหมคะ?

GedGoodLife ตอบคำถาม :

การรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง ต้องรับประทานหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกไม่เกิน 24 -72 ชม. หากคนไข้รับประทานถูกต้อง โอกาสท้องจะต่ำค่ะ การที่ประจำเดือนไม่มา อาจจะเกิดจากหลายปัจจัยรวมถึงความเครียด

อย่างไรก็ตามการรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ควรเกินเดือนละ 1 ครั้งนะคะ เพราะเป็นฮอร์โมนระดับสูงมาก จะทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปากมดลูกนะคะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/30vMQSf


คำถามเรื่องเพศ ข้อที่ 10 : เรื่องการมีเพศสัมพันธ์

คบกับแฟนมา 4 ปีกว่า ๆ มีsexกันอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แต่พักหลังๆเวลามีsexกันแล้วเลือดออกแต่ไม่เยอะเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ?

GedGoodLife ตอบคำถาม :

ต้องดูว่าการมีเพศสัมพันธ์ระยะหลังหากมีการหลั่งของน้ำหล่อลื่นน้อย ก็อาจทำให้มีอาการเลือดออกจากช่องคลอดแห้ง และ อายุที่เยอะขึ้นได้ค่ะ คนไข้อาจใช้เจลหล่อลื่นช่วย เพื่อลดอาการเลือดออกได้นะคะ

ลิงก์คำถาม : https://bit.ly/3dQFHj8


ถามหมอออนไลน์ ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้  ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่

ดีคอลเจน

ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…

Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter      : @gedgoodlife
Line          : @gedgoodlife
Youtube   : GEDGoodLife ชีวิตดีดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close