ตกบ่ายทีไรเป็นต้องง่วงจนตาปรือทุกที ทั้งที่ช่วงพักเที่ยงยังรู้สึกคึกคักดีอยู่เลย! พอง่วงแล้วเนี่ยสมาธิทำงานก็ไม่มี คิดงานก็ไม่ออก หรือถ้ายังเป็นนักเรียนอยู่ ก็เรียนไม่รู้เรื่อง ฟังครูสอนไม่ทันอี๊กก เจอแบบนี้คงต้องงัดวิธีแก้ ง่วงนอนตอนบ่าย มาใช้กันแล้วล่ะ! แล้วอย่าลืมทำแบบทดสอบอาการง่วงนอน ท้ายบทความกันด้วยนะ
ธรรมชาติร่างกายของคนเรามักจะง่วงนอนอยู่ 2 ช่วงเวลา คือ
ใครที่ต้องทำงานในช่วงเวลาดังกล่าว ก็มีโอกาสสูงที่จะง่วงนอนได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอ ส่วนสาเหตุของการ ง่วงนอนตอนบ่าย นั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
● นอนดึก หรือนอนน้อย คือตัวการหลักของอาการ ง่วงนอนตอนบ่าย เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว ร่างกายของเราต้องพักผ่อนอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อวัน (อาจจะมาก หรือน้อยกว่านี้ตามแต่ละบุคคล)
● ปัญหาสุขภาพจิต เช่น การเปลี่ยนแปลงของสุขภาพจิต โดยสาเหตุของอาการง่วงนอนส่วนใหญ่มักมาจากอาการเบื่อหน่าย ขณะที่ภาวะซึมเศร้าก็ส่งผลให้เกิดความอ่อนเพลีย จนเป็นสาเหตุของอาการง่วงเหงาหาวนอน
● สภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อม เช่น อากาศที่เย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศในที่ทำงาน หรือห้องเรียน บรรยากาศที่เงียบสงบ ก็สามารถทำให้ง่วงได้
● ทำงานมากเกินไป เมื่อคุณทำงานหนัก จนทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนจนเพียงพอ จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย และรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา
● นอนไม่เป็นเวลา การนอนไม่เป็นเวลา จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายรวน เมลาโทนิน สารก่อให้เกิดความง่วงที่ออกฤทธิ์ตามช่วงเวลากลางวัน - กลางคืน ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้นอนไม่หลับในตอนกลางคืน และรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนในตอนกลางวัน
● เป็นโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการนอนหลับ และทำให้ง่วงระหว่างวัน เช่น โรคหืด ภาวะหัวใจล้มเหลว ข้ออักเสบรูมาตอยด์
● โรคลมหลับ เป็นความผิดปกติด้านการนอนที่เกิดขึ้นอย่างเรื้อรัง (ในไทยพบผู้ป่วยโรคนี้น้อย) ผู้ป่วยจะรู้สึกง่วงอย่างมากในช่วงกลางวัน และมักหลับไปโดยไม่รู้ตัว บางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงกะทันหันร่วมด้วย
● ผลข้างเคียงจากยา ยา 4 กลุ่มใหญ่ ที่ทำให้หลับมากทั้งกลางคืน และกลางวัน ได้แก่ ยากล่อมประสาท ยาแก้ภูมิแพ้ ยากันชัก และยาลดน้ำมูก เป็นต้น
● ติดยาเสพติด ติดสุรา หรือเกิดภาวะถอนยา ทำให้เกิดภาวะหลับง่าย สูบบุหรี่ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหลับง่าย หากเกิดร่วมกับ สาเหตุอื่นจะทำให้มีอาการมากขึ้น
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุที่แตกต่างกัน ร่างกายก็ต้องการ การนอนเพื่อสุขภาพ ในปริมาณที่ไม่เท่ากันนะ
มูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติ (National Sleep Foundation) ในสหรัฐอเมริกา ระบุระยะเวลาในการนอนหลับที่เหมาะสม โดยแบ่งตามอายุ ดังนี้
รู้หรือไม่? สมาคมการแพทย์เพื่อการนอนหลับโลก (The World Association of Sleep Medicine : WASM) ได้กำหนดจัดกิจกรรม “วันนอนหลับโลก : World Sleep Day” ขึ้นในวันศุกร์สัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคมในทุก ๆ ปี
เพื่อให้ประชากรโลกได้ตระหนัก และให้ความสำคัญกับปัญหาการนอนหลับ หากไม่เร่งแก้ไขก็อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิตได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ - ฮาวทูนอน "นอนเพื่อสุขภาพ" ควรนอนอย่างไรดี?
1. นอนตอนกลางคืนให้เพียงพอ
ลองดูว่า ปกติแล้วคุณเข้านอนกันตอนกี่โมง และตื่นกี่โมง ถ้าเวลานอนของคุณน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงติดต่อกันหลายวันล่ะก็ การที่คุณง่วงนอนตอนบ่าย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ซึ่งสามารถแก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการเข้านอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
2. มื้อเที่ยงให้หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรต
อาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาล ทำให้เราเกิดอาการง่วงซึมได้ โดยเฉพาะอาหารมื้อใหญ่ ๆ ที่เน้นแป้ง และน้ำตาล เพราะจะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมากขึ้น เพื่อเร่งย่อยอาหาร และทำให้เลือดที่ไหลไปเลี้ยงสมองมีน้อยลง หรือไหลเวียนช้าลง ทำให้เรารู้สึกง่วงซึม เฉื่อยชาได้
3. งีบหลับก่อนเริ่มกิจกรรมยามบ่าย
ถ้าง่วงมากนักก็หลับไปเลย มีผลการวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การงีบ 10-20 นาที จะทำให้ร่างกายตื่นตัวและเพิ่มพลังให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ดี ในช่วงเวลานี้จะสามารถปลุกให้ตื่นได้ง่าย
แต่ก็ไม่ควรงีบหลับเกินครึ่งชั่วโมงนะ เพราะคุณอาจจะหลับลึกไปเลย และทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกมึนงง และกลายเป็นง่วงหนักยิ่งกว่าเดิมได้
4. ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้าง
อีกหนึ่งวิธี แก้ง่วงตอนบ่าย ที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ทันตาก็คือ การลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย เมื่อนั่งทำงานติดต่อกันหลาย ๆ ชั่วโมง แล้วรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย ก็ให้ลุกขึ้นมาเดินเล่นเปลี่ยนอิริยาบทบ้าง อาจจะเดินไปเข้าห้องน้ำ หรือเดินไปมาในออฟฟิศก็ได้
เพราะการเดิน สามารถเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายให้สูงขึ้น และลดอาการอ่อนล้าได้ ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าสู่สมอง หลอดเลือด และกล้ามเนื้อ จึงทำใหรู้สึกตื่นตัว และสดชื่นขึ้น
5. ลูบหน้าด้วยน้ำเย็น
การใช้น้ำเย็นล้างหน้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลบความง่วงออกที่ได้ผลดีมาก เพราะความเย็นของน้ำเย็น จะกระตุ้นประสาทสัมผันของคุณให้ตื่นตัวขึ้น และทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
6. พักสายตาเป็นระยะ ๆ
การนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และต้องจ้องมองหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ดวงตาของคุณอ่อนล้า อ่อนเพลีย และส่งผลให้รู้สึกง่วงได้ จึงควรพักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะ การพักสายตาด้วยการเดินไปที่หน้าต่าง และมองออกไปด้านนอกไกล ๆ นอกจากจะช่วยให้หายง่วงแล้ว ยังช่วยลดปัญหาเรื่องอาการปวดศีรษะ ล้า แสบตา ทำให้ดวงตารู้สึกสบายขึ้น
7. ดื่มน้ำระหว่างวัน
น้ำเปล่า เป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการ แก้ง่วงตอนบ่าย การดื่มหรือจิบน้ำสะอาดเย็น ๆ อยู่เรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน ทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นได้ดี จะช่วยทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ร่างกายดูดซึมน้ำไปใช้เลี้ยงเลือดได้ทันที ช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายได้ดี
8. ลดความเครียดระหว่างวัน
ความเครียดทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เมื่อความเครียดลดลงก็จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียน้อยลง
9. ลดน้ำหนัก
น้ำหนักตัวที่มากขึ้น จะส่งผลให้ร่างกายทำงานหนักขึ้นจนเกิดความอ่อนเพลีย และง่วงนอนระหว่างวัน ดังนั้นการลดน้ำหนัก ด้วยการออกกำลังกายแบบง่าย ๆ เช่น เดินเร็ว แกว่งแขนไปมาวันละ 30 นาที แค่นี้ก็จะช่วยให้เรามีน้ำหนักที่ลดลง และอย่าลืมลด/งด การบริโภค น้ำตาล แป้ง ที่เป็นสาเหตุหลักของความอ้วนด้วยล่ะ
10. ดื่มกาแฟดำ
กาแฟดำ มีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพื่อลดความง่วง ความเหนื่อยล้า และกาแฟดำยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมาก เช่น ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน, ลดความเสี่ยงสมองเสื่อม, สามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดได้
ข้อควรระวัง! การดื่มกาแฟ ไม่ควรดื่มเยอะจนเกินไป เพราะ กาแฟมีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมจากอาหาร และยังกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรด ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอักเสบของกระเพาะอาหาร, ลำไส้ และเป็นกรดไหลย้อนได้
แบบวัดความง่วงนอน (Epworth sleepiness scale) เป็นแบบสอบถามที่จัดการได้ด้วยตนเอง ซึ่งแพทย์ใช้เป็นประจำเพื่อประเมินความง่วงนอนตอนกลางวัน
อ้างอิง :
1. pobpad.com
2. thaipbspodcast.com
3. nonthavej.co.th
4. goodlifeupdate.com
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี