ลูกมีไข้สูง ตัวร้อนในหน้าฝน ควรดูแลอย่างไร? และ 5 โรคเสี่ยงทำลูกไข้สูง

ลูกมีไข้สูง

ช่วงฤดูฝน เพิ่มความเสี่ยงก่อโรคระบาดในเด็กได้ง่าย ถ้าพบว่า ลูกมีไข้สูง เป็นไข้อยู่นานหลายวัน ตัวร้อน เบื่ออาหาร พ่อแม่ต้องระวัง! เพราะลูกอาจเกิดภาวะชักได้  บทความนี้ GED good life จึงขอแนะนำวิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้องเมื่อลูกมีไข้สูง พร้อมวิธีเสริมภูมิคุ้มกันด้วย นูโทรเพล็กซ์ โอลิโกพลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมัลติวิตามินสำหรับเด็ก

ทำไมลูกถึงป่วยได้ง่ายในฤดูฝน?

เพราะในช่วงฤดูฝน (กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม) มีอุณหภูมิที่เย็นและชื้น เหมาะสมต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เชื้อไวรัส และแบคทีเรีย โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่ชอบเล่นน้ำฝนอย่างสนุกสนาน โอกาสที่จะหายใจสูดเอาเชื้อร้ายต่าง ๆ เข้าไปในระบบทางเดินหายใจ จนป่วยเป็นหวัด ก็มีโอกาสสูง

นอกจากฝนจะนำพาไวรัสมาสู่เด็ก ๆ แล้ว ในหน้าฝนนี้ยังเป็นฤดูที่ยุงชุมมาก โดยเฉพาะยุงลาย ที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก ไข้ซิก้า และชิคุนกุนยา หากเด็ก ๆ โดนยุงกัดก็อาจทำให้ป่วยมีไข้สูง และมีอาการหนักจนถึงแก่ชีวิตได้ หากรับการรักษาไม่ทันท่วงที

ลูกมีไข้แค่ไหนถึงเรียกว่า ไข้สูง?

โดยปกติแล้ว ทารก และเด็ก ควรมีอุณหภูมิปกติอยู่ที่ 36.6 – 37.2 องศาเซลเซียส แต่ถ้าหากวัดไข้ได้เกิน 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ถึงเรียกว่ามีไข้สูง ส่วนอุณหภูมิที่ถือว่า ไข้สูงมาก (Hyperpyrexia) จนอาจเกิดอันตรายได้คือ 40.5 องศาขึ้นไป ซึ่งมีโอกาสเกิดน้อย

ข้อควรรู้ ภาวะไข้ในเด็ก หมายถึง ภาวะที่เด็กมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป และ เวลามีไข้ ร่างกายไม่จำเป็นต้องร้อนไปหมดทุกส่วน อาจร้อนที่ศีรษะ ลำตัว และแขนขา แต่ฝ่ามือฝ่าเท้าเย็นก็ได้

วิธีวัดไข้เด็กที่ถูกต้อง

  1. วัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์ทางปาก – ให้เด็กอมเทอร์โมมิเตอร์ไว้ใต้ลิ้นนาน 3-5 นาที
  2. วัดด้วยปรอทดิจิทัล – ให้วัดที่รักแร้นาน 1-2 นาที หรือจนกว่าจะมีเสียงเตือน

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อ ลูกมีไข้สูง

หัวใจสำคัญในการปฐมพยาบาลเด็กที่มีไข้สูง คือ การทำให้ไข้ลดลงเร็วที่สุด หากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองไม่เคยทำมาก่อน แนะนำให้พาเด็กไปพบแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อรับคำแนะนำในการใช้ยาอย่างถูกต้อง ส่วนวิธีลดไข้เด็กอย่างถูกต้อง มีดังนี้

  1. ให้ยาลดไข้พาราเซตามอล จะปลอดภัยต่อเด็กที่สุด สามารถป้อนยาเด็กทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ห้ามป้อนยาเด็กเกิน 5 ครั้งต่อวัน
  2. การกินยาลดไข้ จะช่วยลดไข้ได้เร็วกว่าการเช็ดตัว ฉะนั้นควรให้ยาลดไข้เด็กก่อน ส่วนการเช็ดตัวค่อยทำทีหลัง
  3. เช็ดตัวลดไข้ โดยใช้น้ำประปาอุณหภูมิปกติ เช็ดบริเวณที่ตัวร้อน เช่น ศีรษะ ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ประคบไว้สักระยะจะช่วยลดไข้ได้
  4. ให้เด็กดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายลดลง ทดแทนน้ำในร่างกายที่ระเหยออกไปเป็นเหงื่อ
  5. นอนพักผ่อนมาก ๆ เพื่อลดการเผาผลาญในร่างกายให้น้อยลง
  6. ถ้าเด็กมีเสมหะ สามารถให้ยาละลายเสมหะสำหรับเด็ก และให้เด็กดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยละลายเสมหะ
  7. ไม่ควรใช้ยาแอสไพริน และ ไอบูโพรเฟน เพื่อลดไข้เด็ก ยกเว้นได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
  8. ติดตามวัดอุณหภูมิหลังเช็ดตัวลดไข้ทุก 30 นาที หรือหลังให้ยาลดไข้ 1 ชั่วโมง สามารถเช็ดตัวลดไข้ซ้ำได้ 4-6 ชั่วโมง หรือจนกว่าไข้ลง
  9. หากกินยาแล้ว เช็ดตัวก็แล้ว แต่ไข้ไม่ลดสักที ควรพาเด็กไปพบแพทย์
  10. ในฤดูฝนไม่ควรปล่อยให้ลูกเล่นน้ำฝน เพราะ ไวรัสที่มากับฝนสามารถทำให้ลูกป่วยซ้ำ เป็นหวัดเรื้อรังได้

อนึ่ง ยาลดไข้ในเด็ก ควรให้เมื่อเด็กมีไข้ถึงเกณฑ์เท่านั้น (อุณหภูมิเกิน 38.3 องศาเซลเซียส) และให้ในขนาดที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว ถ้าเด็กมีไข้ไม่สูง มีเพียงศีรษะอุ่น ไม่กวน หรือกระวนกระวาย ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาลดไข้

อาการแทรกซ้อนของไข้ที่ต้องระวังคือ การชักจากไข้สูง ซึ่งพบในช่วงอายุ 6 เดือน ถึง 6 ปี เด็กที่เคยชักเวลามีไข้สูง หรือมีประวัติชักในครอบครัวเมื่อไข้สูง ต้องระวังการมีไข้เป็นพิเศษ

อาการที่ควรพาลูกมาพบแพทย์ด่วน

  • มีไข้สูงลอยเกิน 48-72 ชม. (2-3วัน)
  • เด็กที่อายุไม่ถึง 6 เดือน เมื่อมีไข้ ให้รีบมาพบแพทย์
  • มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง มีเลือดออกตามไรฟัน (สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก)
  • เด็กมีอาการชัก
  • ไข้ลดลงมากกว่า 24 ชั่วโมง แล้วกลับมาใหม่
  • ง่วงซึม อ่อนเพลียมากกว่าปกติ
  • รับประทานอาหารได้น้อย
  • คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียบ่อยครั้ง
  • ไอมาก หายใจลำบาก

ลูกมีไข้สูงในฤดูฝน อาจเสี่ยงเป็น 5 โรคเหล่านี้!

  1. ไข้เลือดออก (Dengue fever)
  2. ส่าไข้ หรือ โรคหัดกุหลาบ (Roseola Infantum)
  3. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza fever)
  4.  ไวรัส RSV
  5.  โควิด-19

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ตัวช่วยเสริมภูมิเด็กในหน้าฝน

NUTROPLEX OLIGO PLUS ( นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ) วิตามินรวมสำหรับเด็ก ที่มีส่วนผสมของมัลติวิตามิน ใยอาหารธรรมชาติ กระตุ้นการขับถ่าย เสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี “ไลซีน” ช่วยเพิ่มความอยากอาหารของเด็ก สำหรับเด็กที่กินน้อย กินยาก ไม่ได้กินอาหารครบหมู่ หรือ ไม่กินผักผลไม้เป็นประจำได้ทุกวัน

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส เป็นวิตามินรวมสำหรับเด็กตัวเดียวที่มี “ธาตุเหล็ก” ซึ่งมีส่วนเสริมสร้างและพัฒนาสมอง

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี Oligofructose ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Prebiotic และใยอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยในการปรับสมดุลย์ด้านระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มกากใยให้กับระบบทางเดินอาหาร ป้องกันท้องผูกได้ดี

สั่งซื้อ NUTROPLEX OLIGO PLUS ได้ที่นี่

• แอดไลน์ ID : @nutroplexclub
• Inbox Facebook : https://www.facebook.com/nutroplexclub

หรือสั่งซื้อตามร้านขายยาชั้นนำ เช่น Boots, Health up, Fascino, P&F, Pure, Save Drug, D Chain, Tesco (แผนกร้านขายยา), Drug Core, I Care, Drug Square, Ameditec และทาง ออนไลน์ Konvy.com

 

อ้างอิง : 1. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 2. คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี 3. สภากาชาดไทย 4. รพ. เพชรรัตน์ 5. เลี้ยงลูกตามใจหมอ 1/2 6. รพ. เปาโล

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close