แร่ธาตุเสริมพัฒนาการเด็ก ช่วยให้ลูกฉลาดสมวัย มีอะไรบ้าง?

แร่ธาตุเสริมพัฒนาการเด็ก

เด็กวัย 3 ปีแรก ควรได้รับสารอาหารจำเป็นอย่างครบถ้วน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกายควบคู่ไปกับสมอง รวมทั้งการสร้างพฤติกรรมเชิงบวก และส่งเสริมให้ลูกน้อยได้วิ่งเล่นในสนาม ทำให้อารมณ์ดีอยู่เสมอ และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ “แร่ธาตุเสริมพัฒนาการเด็ก” ช่วยให้ลูกฉลาดสมวัย แร่ธาตุเหล่านี้จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันต่อเลย!

แร่ธาตุ จำเป็นต่อพัฒนาการเด็กอย่างไร?

เชื่อว่าถ้าพูดถึงเรื่องอาหารเสริมเด็ก คุณพ่อคุณแม่มักจะนึกถึง “วิตามิน” มาเป็นอันดับแรก แต่รู้หรือไม่ว่า วิตามินไม่สามารถถูกดูดซึมได้เลยหากปราศจากแร่ธาตุ ฉะนั้น แร่ธาตุจึงเป็น “สารอาหารเล็ก ๆ ที่ร่างกายขาดไม่ได้”

ภญ. เสาวลักษณ์ ตุรงคราวี ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ถึงแม้ว่าร่างกายจะสังเคราะห์วิตามินบางตัวได้เอง แต่กลับไม่สามารถผลิดแร่ธาตุได้เลยสักตัว ยกตัวอย่างแร่ธาตุที่ช่วยเสริมการทำงานให้วิตามินทำงานได้มีประสิทธิภาพ เช่น

  • วิตามิน A ทำงานร่วมกับแร่ธาตุอย่าง แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซีลีเนนียม และสังกะสี ได้ดีที่สุด
  • วิตามิน C ทำงานร่วมกับแร่ธาตุแคลเซียม โคบอลต์ ทองแดง เหล็กและโซเดียม
  • วิตามิน E ทำงานได้ดีหากได้ร่วมกับแร่ธาตุ แคลเซียม เหล็ก แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซีลีเนียม โซเดียม และสังกะสี เป็นต้น

ฉะนั้นการรับประทานเพียงวิตามินเพียงอย่างเดียว โดยปราศจากแร่ธาตุนั้น อาจจะทำให้เด็กได้รับประโยชน์จากวิตามินได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และนอกจากนี้ ถ้าเด็กขาดแร่ธาตุก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ถ้าเด็กขาดธาตุเหล็กจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ เป็นต้น และแร่ธาตุยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ อีกด้วย

3 แร่ธาตุเสริมพัฒนาการเด็ก ช่วยให้ลูกฉลาดสมวัย

1. น้ำนมแม่

สารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูกตั้งแต่แรกเกิดก็ คือ น้ำนมแม่ มีแร่ธาตุถึง 3 ชนิด ได้แก่ ธาตุเหล็ก แคลเซียม และไอโอดีน สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด นมแม่มีสารอาหารครบถ้วน และช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย การเสริมอาหารตามวัยที่มีกรดไขมันจำเป็น ไอโอดีน กลุ่มวิตามินบี และสารอาหารให้ครบถ้วน จำเป็นสำหรับทารกอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพื่อเพิ่มความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา (IQ) ความจำ และอารมณ์ดี

2. ธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็ก (Iron) มีความสำคัญมากต่อพัฒนาการของร่างกาย และสมอง ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา โดยเฉพาะในหนึ่งปีแรกของชีวิต มีการศึกษาทั่วโลกพบว่าการขาดธาตุเหล็กในวัยทารก จะมีปัญหาต่อสมองโดยเฉพาะด้านเชาว์ปัญญา สมาธิ และปฏิภาณไหวพริบ (Cognitive Function)

การขาดธาตุเหล็กยังทำให้มีภาวะโลหิตจาง ทำให้มีการเจริญเติบโตของร่างกายต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย อาจพบว่าเด็กมีความสูงน้อยกว่าเกณฑ์เฉลี่ย การขาดโภชนาการที่ถูกต้องอาจทำให้ติดเชื้อ และเจ็บป่วยได้ง่าย

อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เหมาะสำหรับลูกวัยเรียนรู้ ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเนื้อแดง, เลือด, ตับ, เครื่องในสัตว์, ธัญพืช เช่น ซีเรียล ข้าวโอ๊ต จมูกข้าวสาลี เป็นต้น, แป้ง, ไข่แดง, อาหารทะเล, ปลา, เป็ด, ไก่, ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักโขม ผักบุ้ง บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น, ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ

ปริมาณธาตุเหล็กที่แนะนำที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน สำหรับกลุ่มเด็กปฐมวัย  :

นายแพทย์ธีรภัทร อัตวินิจตระการ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย ได้ระบุว่า ความต้องการธาตุเหล็กสำหรับการเจริญเติบโตนั้นจะแตกต่างกันไปตามวัยในช่วง 4–6 เดือนแรกของชีวิตทารกจะอาศัยธาตุเหล็กที่สะสมในร่างกายตั้งแต่ระยะที่ยังอยู่ในครรภ์มารดา ทารกอายุ 6 เดือน 2 ปี ควรได้รับอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ เนื่องจากธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก

  • เด็กทารก จะได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอจากนมแม่
  • อายุ 6-11 เดือน ต้องการธาตุเหล็ก 11 มก. ต่อวัน
  • อายุ  1-3 ปี ต้องการธาตุเหล็ก 7 มก. ต่อวัน
  • อายุ  4-8 ปี ต้องการธาตุเหล็ก 10 มก. ต่อวัน

อ่านเรื่องธาตุเหล็กเพิ่มเติม -> 5 เหตุผลที่ควรเสริมธาตุเหล็กให้ลูก

3. สังกะสี 

สังกะสี (Zinc)  เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเกือบทุกระบบ ล้วนมีสังกะสีเข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น ช่วยรักษาสมดุลของระบบประสาทสมองทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า, มีส่วนในการสังเคราะห์โปรตีน และคอลลาเจนในกระบวนการเจริญเติบโตของเด็ก, เป็นองค์ประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในร่างกาย ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย เป็นต้น

มีงานวิจัยในเด็ก พบว่าระดับของฮอร์โมนเกรลินในเลือดมีความสัมพันธ์โดยตรงกับระดับความเข้มข้นของแร่ธาตุสังกะสีในเส้นผมของเด็ก โดยระดับความเข้มข้นของแร่ธาตุสังกะสีที่ต่ำ มีผลกระทบต่อระดับของฮอร์โมนเกรลิน ทำให้เด็กมีปัญหาเบื่ออาหาร ไม่หิว กินนมน้อย ไม่กินข้าว (ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบประสาทและสมอง)


Nutroplex วิตามินรวมสำหรับเด็ก ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็ก​ เติบโต​สมวัย

นูโทรเพล็กซ์ วิตามินรวมสำหรับเด็กมีไลซีน (Lysine) ช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ช่วยให้ลูกรับประทานอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ กินน้อย ไม่กินข้าว

นูโทรเพล็กซ์ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางการเรียนรู้และความจำ จากธาตุเหล็ก ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงสมองจึงช่วยให้เด็กมีความฉลาดสมวัย นอกจากนี้ยังมีวิตามิน B1 ช่วยกระตุ้นการทำงานของประสาท วิตามิน B2 ช่วยสร้างพลังงานภายในเซลล์ วิตามิน B12 ช่วยบำรุงประสาทและสมอง ทำให้ความจำดี

นูโทรเพล็กซ์ ดีต่อระบบขับถ่าย มีใยอาหารธรรมชาติ (พรีไบโอติก) ชนิด โอลิโกฟรุคโตส (Oligofructose) ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ เสริมภูมิคุ้มกันจึงลดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ป้องกันท้องเสีย และลดอาการท้องผูกในเด็กที่กินผัก-ผลไม้น้อย

ทานได้ทุกวัย
ปลอดภัย ทานได้ต่อเนื่อง
ทานได้ต่อเนื่อง
ไม่ใช่ยาระบาย
รสส้ม ทานง่าย
ปราศจากน้ำตาล ไม่ทำให้ฟันผุ

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส เสริมภูมิต้านทานเด็ก

NUTROPLEX OLIGO PLUS ( นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ) วิตามินรวมสำหรับเด็ก ที่มีส่วนผสมของมัลติวิตามิน ใยอาหารธรรมชาติและธาตุเหล็กสูง กระตุ้นการขับถ่าย เสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สำหรับเด็กที่อาจจะกินน้อย กินยาก ไม่ได้กินอาหารครบหมู่ หรือ ไม่กินผักผลไม้เป็นประจำได้ทุกวัน

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส เป็นวิตามินรวมสำหรับเด็กตัวเดียวที่มี “ธาตุเหล็ก” ซึ่งมีส่วนเสริมสร้างและพัฒนาสมอง

นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี Oligofructose ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Prebiotic และใยอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยในการปรับสมดุลย์ด้านระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มกากใยให้กับระบบทางเดินอาหาร ป้องกันท้องผูกได้ดี

NUTROPLEX OLIGO PLUS หาซื้อที่ไหนได้บ้าง?

วิตามินรวมนูโทรเพล็กซ์ หาซื้อได้ที่ร้านขายยาชั้นนำ เช่น Boots, Health up, Fascino, P&F, Pure, Save Drug, D Chain, Tesco (แผนกร้านขายยา), Drug Core, I Care, Drug Square, Ameditec และทาง ออนไลน์ Konvy.com

สั่งซื้อ NUTROPLEX OLIGO PLUS ได้แล้วที่นี่

แอดไลน์ ID : @nutroplexclub
Inbox Facebook : https://www.facebook.com/nutroplexclub

 

อ้างอิง : 1. pharmacy.mahidol 2. nonthavej

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close