รู้จัก โอลิโกฟรุกโตส ใยอาหารประโยชน์แน่นสำหรับลูก

หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ โอลิโกฟรุกโตส แต่ถ้าเรียกมันว่า ใยอาหาร หลายคนคงคุ้นหูกันมากขึ้น แต่จะมีกี่คนที่ทราบว่า โอลิโกฟรุกโตสนั้นมีประโยชน์ และมีความสำคัญกับสุขภาพลูกแค่ไหน จะหาโอลิโกฟรุกโตสได้จากไหนบ้าง ถ้าลูกได้รับโอลิโกฟรุกโตสเป็นประจำจะดีกับร่างกายอย่างไรบ้างบ้าง มาหาคำตอบ คลายความสงสัยกัน

ทำความรู้จักกับใยอาหาร

ก่อนจะไปรู้จักกับโอลิโกฟรุกโตส มาทำความรู้จักกับ “ใยอาหาร” กันก่อน สำหรับใยอาหารนั้น แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ

1. ใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มกากอาหาร และทำความสะอาดทางเดินอาหาร
2. ใยอาหารละลายน้ำ ในกลุ่มนี้เมื่อละลายน้ำ จะมีลักษณะเป็นเจล สามารถจับน้ำตาล ดูดซับน้ำมันได้

ใยอาหาร ช่วยให้การขับถ่ายสะดวก ช่วยจับไขมันจากอาหาร ลดการดูดซึมพวกน้ำตาล ดังนั้นจึงมีผลดีต่อคนเป็นเบาหวาน ช่วยป้องกันการดูดซึมของสารก่อมะเร็ง เพราะขับถ่ายออกได้เร็ว และลดการสัมผัสต่อผนังลำไส้ นอกจากนี้ยังช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากทำให้ปริมาณอาหารมากขึ้น มีการดูดน้ำเข้ามาในทางเดินอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ไม่อยากอาหาร

ปริมาณใยอาหารที่ร่างกายต้องการ

สำหรับปริมาณใยอาหารที่เราควรได้รับอย่างเพียงพอ คือ ผักประมาณ 2 ทัพพี ต่อมื้อ และกินข้าวกล้อง มีผลไม้ 3 – 4 ส่วน ต่อวัน หากได้รับใยอาหารมากเกินไป อาจทำให้มีการขับแคลเซียม เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม ออกทางอุจจาระได้ ทำให้อุจจาระมีสีดำเข้ม

โอลิโกฟรุกโตส คืออะไร?

โอลิโกฟรุกโตส (Oligofructose) เป็นใยอาหารจากธรรมชาติ สารสกัดจากพืช มีโมเลกุลใหญ่ ละลายน้ำได้ดีมาก ซึ่งอาจจะเรียกให้ง่ายขึ้นในหลาย ๆ ชื่อ เช่น กากใย ใยอาหาร หรือไฟเบอร์ เป็นต้น

การทำงานของ โอลิโกฟรุกโตส

เมื่อกินอาหารที่มีโอลิโกฟรุกโตสเข้าไป ใยอาหารจะไม่ถูกย่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก แต่จะผ่านไปที่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียสุขภาพ เช่น แลคโตบาซีลัส บิฟิโดแบคทีเรีย ให้มีความสมดุล ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ทำให้ขับถ่ายดี และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้

คุณสมบัติของ โอลิโกฟรุกโตส

– มีรสหวานอ่อน ๆ กลิ่นหอมจาง ๆ เมื่อรับประทานจะไม่ถูกย่อยในทางเดินอาหารส่วนต้น เมื่ออยู่ในลำไส้ใหญ่ จะทำให้กากอาหารมีปริมาณมากขึ้น

– โอลิโกฟรุกโตสเป็นสารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ที่ให้พลังงาน แต่ไม่เพิ่มน้ำตาลในกระแสเลือด ซึ่งอาจเหมาะกับคนที่เป็นเบาหวาน

– โอลิโกฟรุกโตสให้ความหวาน แต่ให้พลังงานเพียง 30-50% ของน้ำตาลทราย

– โอลิโกฟรุกโตสให้พลังงานต่ำ เมื่อเทียบกับคาร์โบไฮเดรตทั่วไป เพราะไม่ผ่านกระบวนการย่อยเผาผลาญ

– แบคทีเรียในช่องปากไม่สามารถย่อยสลายโอลิโกฟรุกโตสให้เกิดกรดได้ จึงไม่เป็นสาเหตุทำให้ฟันผุ

– โอลิโกฟรุกโตสช่วยให้อิ่มท้อง ด้วยคุณสมบัติของใยอาหาร ทำให้รับประทานโอลิโกฟรุกโตสแล้วช่วยให้อิ่มท้อง

ประโยชน์ของโอลิโกฟรุกโตสต่อร่างกาย

– ขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก ใยอาหารที่ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร เมื่อยู่ในลำไส้ใหญ่จะเพิ่มกากใยให้กับระบบทางเดินอาหารมากขึ้น ช่วยให้อุจจาระนุ่มขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้ดี ลดอาการท้องผูก

– เป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ ใยอาหารโอลิโกฟรุกโตส มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก หรือ เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ทำให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตได้ดี ช่วยสร้างสมดุลในลำไส้ ป้องกันการติดเชื้อ การอักเสบในทางเดินอาหารได้

– ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ใยอาหารช่วยลดอัตราการเกิดของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ เนื่องจากใยอาหารมีผลทำให้อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ผ่านจากกระเพาะอาหาร ไปยังลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และทวารหนักได้อย่างรวดเร็วขึ้น ดังนั้นจึงช่วยลดการสัมผัสสารพิษ ที่อาจมาจากอาหารให้สำผัสเยื่อบุลำไส้น้อยลง ทำให้ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ลง

– ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม โอลิโกฟรุกโตสช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากอาหาร เข้าสู่ร่างกายลูกให้มาก และดียิ่งขึ้น จึงทำให้กระดูกและฟันของลูกแข็งแรง ป้องกันกระดูกพรุนและโรคโลหิตจางได้ด้วย

– ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ใยอาหารสามารถลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด โดยใยอาหารจับเอาโคเลสเตอรอลไว้ ทำให้ปริมาณของโคเลสเตอรอลที่จะดูดซึมเข้าร่างกายน้อยลง ซึ่งเท่ากับเป็นการป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดไปในตัวด้วย

– ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะระบบภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่ก็อยู่ในระบบลำไส้ หากลำไส้ขาดความสมดุล ก็อาจทำให้ร่างกายขาดสมดุลไปด้วย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโรคต่ำลง ถ้าสมดุลของระบบทางเดินอาหารดี ก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เจ็บป่วยน้อยลง

– ช่วยทำให้อิ่มท้อง ใยอาหารมีคุณสมบัติช่วยให้อิ่มท้อง ไม่หิวบ่อย ถึงเป็นคาร์โบไฮเดรต แต่ให้พลังงานต่ำ

โอลิโกฟรุกโตสหาได้จากไหนบ้าง?

– อาหารต่าง ๆ อาหารที่มีโอลิโกฟรุกโตส หรือใยอาหารธรรมชาติสูง ได้แก่ หัวหอม กระเทียม กล้วย ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ผักผลไม้ จึงควรให้ลูกรับประทานให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ เพื่อให้ได้ใยอาหารที่ดี กับร่างกาย

– วิตามินเด็ก สำหรับเด็กที่ไม่ชอบกินผัก อาจเสริมด้วยวิตามินรวม หรือ วิตามินเด็ก เช่น Nutroplex Oligo Plus ซึ่งมีส่วนผสมของโอลิโกฟรุกโตส ใยอาหารจากธรรมชาติ และ วิตามินเกลือแร่ ร่วมกับการทานอาหารมื้อหลักได้ เพื่อให้ลูกได้โอลิโกฟรุกโตสในปริมาณที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ลดอาการท้องผูก และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก และฟัน รวมทั้งเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สุขภาพด้วย