Wellness tourism แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อการพักผ่อนทั้งกายและใจ

Wellness tourism

ในอดีตนิยามของคำว่า “การดูแลสุขภาพ” คนส่วนมากมักจะนึกถึงการดูแลบำรุงรักษาร่างกาย ทั้งการกิน การนอน การออกกำลังกาย ไม่ให้มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ซึ่งก็ยังเป็นดังที่เข้าใจ แต่ในปัจจุบันศาสตร์และองค์ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพกำลังก้าวไปไกลกว่าคำจำกัดความเดิมๆ

หลายคนเชื่อว่าการดูแลสุขภาพไม่ใช่ภารหน้าที่ แต่เป็นวิถีชีวิตที่ผู้คนชื่นชมและยินดี เรียกร้องมองหาโอกาสที่จะทำเพื่อให้ได้ดูแลตนเองในรูปแบบที่ตอบสนองทั้งประโยชน์ทางร่างกาย และความเพลิดเพลินผ่อนคลายทางจิตใจ และนั่นคือเรื่องราวที่เราจึงอยากชวนท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน ได้รู้จักกับศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพแนวใหม่ หรือที่เรียกกันว่า Wellness tourism ที่จะช่วยดูแลทั้งร่างกาย และจิตใจในช่วงเวลาของการเดินทางพักผ่อน ที่กำลังเป็นที่สนใจของคนในยุคปัจจุบัน

decolgen ดีคอลเจน

Wellness tourism คืออะไร?

การท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ หรือ Wellness Tourism ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของดูแลสุขภาพ ผ่านการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม สร้างความสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ โดยอาศัยช่วงเวลาในการเดินทางพักผ่อน เป็นช่องทางโอกาสในการทำกิจกรรมด้านสุขภาพไปพร้อมกัน ซึ่ง Wellness tourism โดยมากมักประกอบไปด้วยรูปแบบกิจกรรมดังต่อไปนี้

  • บริการตรวจสุขภาพแบบครอบวงจร
  • การบำบัดรักษาโดยแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญ
  • การฝึกโยคะการฝึกลมหายใจ
  • โปรแกรมออกกำลังกายเฉพาะบุคคล
  • การทำสปา การขัดเซลล์ผิว
  • โปรแกรมฟื้นฟูผิวพรรณ และศัลยกรรมความงาม
  • การนวดและการทำกายภาพบำบัด
  • อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงโปรแกรมดีท็อกซ์

ซึ่งในวันนี้เราจะขอแนะนำ 4 สถานที่ เพื่อการพักผ่อนทั้งกายและใจ ใน 4 บรรยากาศ ซึ่งจะเป็นที่ใดบ้างมาตามไปชมกันได้เลย

Wellness tourism

1. Absolute Sanctuary

สถานที่แรกที่จะพาคุณไปสัมผัสนั้นอยู่ในกลุ่ม Health & Wellness Resort ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะสมุย แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนแนบชิดธรรมชาติ ในฝั่งอ่าวไทย  แอ็บโซลูท แซงชัวรี่ รีสอร์ทเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์โมร๊อคเคียน เฉกเช่นที่ได้เห็นในนคร Marrakesh ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

จุดเด่นของที่นี่นอกจากจะเป็นทำเลที่ตั้งที่สงบ เต็มไปด้วยพลังธรรมชาติ จากแสงแดด และกลิ่นความสดชื่นของท้องทะเล  โปรแกรมดีท็อกซ์ของที่นี่ ที่มีตั้งแต่แค่ไม่กี่วันจนถึงเดือน ถือเป็นไฮไลต์ที่บรรดาเหล่าผู้รักสุขภาพต้องจัดสรรเวลามาใช้บริการปีละ หน หรือ หลาย ๆ หน ตามแต่โอกาสจะอำนวย

โดยลักษณะโปรแกรมที่เป็นที่นิยม จะมีระยะเวลาเริ่มต้นตั้งแต่ สามวัน ห้าวัน หรือเจ็ดวัน ซึ่งจะประกอบไปด้วยการขับของเสียออกจากร่างกายในทุกวัน วารีบำบัดชำระล้างลำไส้ Colon Hydrotherapy การนวดผ่อนคลาย และการนวดเพื่อนการบำบัดรักษาอาการ  เช่น Chi Nei Tsang ซึ่งเป็นการนวดหน้าท้องลึกที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของย่อยอาหาร

นอกจากโปรแกรมดีท็อกซ์ซึ่งถือเป็นไฮไลต์แล้ว ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้คุณได้ทำอีกเพียบ อาทิ บอดี้แรป พิลาทิส การนวดสครับ และการฝึกโยคะแบบไม่จำกัดชั่วโมง ริมสระน้ำขนาดใหญ่อันสว่างสดใส ปลุกความกระปรี้กระเปร่าในตัวคุณให้กลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง เมื่อคุณกลับออกไป

2. Jirung Health Village in Chiang Mai   “จีรัง เฮลธ์ วิลเลจ”

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศภูเขา และวัฒนธรรมทางภาคเหนือ จีรัง เฮลท์ วิลเลจ จังหวัด เชียงใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนส่งเสริมสุขภาพที่ควรอยู่ในแพลนการเดินทางของคุณ

ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง ที่นี่จะพาคุณหลบหนีความวุ่นวายของโลกภายนอกไปซ่อนตัว และใช้เวลาในการดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติของแนวเทือกเขาภาคเหนือของไทย ที่เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มสดชื่น

“จีรัง เฮลธ์ วิลเลจ” ยังเป็นสถานที่ที่บรรดาผู้ที่สนใจการบำบัดรักษาในแนวทางการแพทย์แผนไทยต่างให้ความไว้วางใจ และยกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ดูแลสุขภาพตามแบบแผนไทย ที่ดีที่สุด

โดยเฉพาะโปรแกรมสุดพิเศษของที่นี่ที่ชื่อว่า Jirung Four Element Spa ที่เป็นการสืบทอดแนวทางมาจากคำสอนอายุรเวทที่เก่าแก่และเป็นที่ยอมรับนับถือมากที่สุดของดินแดนแถบล้านนา

ระหว่างการเข้าพัก คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่พักกลางป่าใหญ่ ซึ่งนอกจากจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบสุดๆแล้ว ทางรีสอร์ตยังมีกิจกรรมน่าสนใจต่าง ๆ ไว้ต้อนรับอีกเพียบ ตัวอย่างเช่น

– กิจกรรมพฤกษาบำบัด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้ที่สนใจ และชื่นชอบเกี่ยวกับการประดิษฐ์ดอกไม้ และเครื่องหอม

– กิจกรรม Emotion Detox ซึ่งจะช่วยคุณปรับสมดุลของอารมณ์ และจิตใจให้สงบร่มเย็นจากทุก ๆ ปัญหา การเดินสำรวจ และสัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายในรีสอร์ต ที่มีทั้งสวนผักอินทรีย์ โรงเรือนปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และอาคารแปรรูปผลิตภัณฑ์ มีไว้สำหรับปลูกผักให้ผู้ที่มาพัก และผู้ที่มาเที่ยวชมคาเฟ่ได้กินผักสด ๆ ปลอดสาร หรือถ้าคุณอยากพักผ่อนอยู่นิ่ง ๆ เพียงแค่นั่งอ่านหนังสือที่ห้องพักที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ป่าแม่ริมกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมเครื่องดื่มชาร้อน ๆ เพื่อสุขภาพก็เป็นอะไรที่สุดแสนวิเศษแล้ว

– และในทุกมื้อคุณจะยังได้ลิ้มลองอาหารไทยแบบชาวเหนือ ที่ทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างคัดสรรมาพร้อมคุณภาพ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในรีสอร์ต อย่างสบู่ แชมพู ที่นี่ก็ทำขึ้นเอง จึงการันตีได้ว่าปลอดภัยแถมดีต่อสุขภาพแน่นอน เหมาะสำหรับการเป็นทางเลือกพักผ่อนเพื่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว

3. Romantic Resort​ &​ Spa Khaoyai

จุดหมายสำหรับคนที่รักการเดินทางเชิงสุขภาพ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา อันโด่งดังอย่าง เขาใหญ่ ที่เขียวชอุ่ม และครบครันด้วยกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำสปา การแช่ออนเซ็น บริการคลินิกพิเศษ สปอร์ตคลับ รวมถึงบริการพิเศษสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต

ที่นี่ถือเป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพแห่งแรก ๆ ในพื้นที่เขาใหญ่ โดยมีแพทย์ และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้คำปรึกษา ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ เสมือนเป็นการพักผ่อนในโรงแรมรีสอร์ตตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ

จุดเด่นของที่นี่จะอยู่ที่ Varin Wellness Club ซึ่งถือเป็นคลับของคนรักสุขภาพแห่งใหม่ใจกลางเขาใหญ่ ที่เตรียมกิจกรรมทางเลือกของการดูแลสุขภาพไว้ให้ครบจบในการมาพักที่เดียว ประกอบไปด้วย 4 โซน คือ

1. โซน Wellness & Spa ประกอบด้วย ออนเซ็นไทยสไตล์ญี่ปุ่น ที่จะทำคุณจะรู้สึกเบา สบายตัว ช่วยระบบการไหลเวียนของโลหิตทั่วร่างกาย บริการ ห้องอบซาวน่า Sauna บริการนวด

2. โซน Wellness Medical Zone ที่เป็นโซนเอาใจคนรักสุขภาพ ทั้งภายใน และภายนอก ประกอบไปด้วย การให้คำปรึกษาด้านการดูเเลสุขภาพเชิงป้องกันเพื่อส่งเสริมภาวะสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งร่างกาย และจิตใจ  บริการ Aqua Bedroom Therapy ซึ่งเป็นการนอนบนเตียงน้ำที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส ช่วยผ่อนคลาย และบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ตลอดทั้งยังช่วยขับสารพิษของร่างกายออกทางรูขุมขนด้วย และยังใช้การบำบัดด้วยแสง LED สีต่าง ๆ เข้าด้วย ช่วยในการบำบัดภาวะเสื่อมของร่างกาย โดยแต่ละสีจะมีความยาวคลื่นแสงที่ต่างกัน ส่งผลในการบำบัดอาการที่ต่างกันด้วย

ห้อง Salt Room Therapy ห้องเกลือบำบัด โดยผนังห้องจะเป็นเกลือสีชมพูจากภูเขาหิมาลัย ซึ่งมีแร่ธาตุมากกว่า 84 ชนิด การสูดไอเกลือจะช่วยล้างระบบทางเดินหายใจ ทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น และสุดท้าย Colon Detox Room หรือการสวนล้างลำไส้ใหญ่แบบระบบปิดด้วยแรงดันที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน เพื่อทำความสะอาด และกำจัดของเสียต่างๆออกจากลำไส้ใหญ่ ซึ่งใช้ในการรักษาโรคต่างๆโดยเฉพาะโรคมะเร็ง

3. Sport Zone โซนกีฬาในร่ม ที่ถูกอกถูกใจเอาใจคนรักการออกกำลังกาย แบบไม่ต้องออกไปท้าแดด

4. Private Party Zone ที่มุมดาดฟ้า เห็นวิวภูเขาโอบล้อม 365 องศาไปด้วยขุนเขา  กับห้องรับรองสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ที่ทุกห้องได้แช่น้ำในอ่างจากุสซี่ดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแบบส่วนตัวสุด ๆ

4. RAKxa (รักษ)

สำหรับท่านที่ไม่สะดวกจะเดินทางไกล RAKXa ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างลงตัว เพียง 45 นาที ในการเดินทางจากกรุงเทพฯ คุณก็สามารถสัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติ ที่ครอบคลุมพื้นที่สีเขียวอันเงียบสงบ และสวยงามของบางกระเจ้า พื้นที่อนุรักษ์ และปอดสำคัญของชาวกรุงเทพฯ

ความน่าสนใจของที่นี่ คือการนำเอาศาสตร์ของการดูแลสุขภาพในทุกศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน อินเดีย มาประยุกต์ผสมผสานใช้ร่วมกับการแพทย์แบบองค์รวมที่นี่จึงได้ชื่อว่าเป็น  Fully Integrative Wellness & Medical Retreat แห่งแรกในเอเชียที่รวมทั้ง Advanced Medical Science และ Holistic Wellness ครบสมบูรณ์แบบ

บริการของ RAKxa (รักษ) ประกอบไปด้วย ทรีตเมนต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบุคคล เริ่มต้นตั้งแต่ 1 วัน จนถึง 14 วัน โดยก่อนโปรแกรมจะออกแบบตามผลสุขภาพเบื้องต้น  อาทิ การตรวจเลือด ตรวจดีเอ็นเอ วัดระดับฮอร์โมน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ และเวชศาสตร์ชะลอวัย เพื่อร่วมออกแบบเป็นโปรแกรมทรีตเมนต์ที่เหมาะกับร่างกายของแต่ละคนโดยเฉพาะ

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่คุณไม่ควรพลาด RAKxa Gaya ยิมออกกำลังกาย ที่ช่วยทำให้การออกกำลังกายของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัย แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และมีประสิทธิภาพต่อร่างกายในระยะยาว ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บที่ต้องการฟื้นฟู หรือถนอมร่างกายให้ออกกำลังกายได้โดยไม่ทำให้อาการแย่ลง โดยการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกาย รวมถึงข้อมูลอย่างละเอียดตั้งแต่สมองจนถึงทุกข้อต่อทุกส่วนนำมาวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ และนักกายภาพบำบัด เพื่อออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้อาการบาดเจ็บของคุณแย่ลง

แม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเมือง แต่บรรยากาศภายในของที่นี่ ถูกออกแบบบนแนวทาง ‘Botanical Wellness Journey’ ที่ให้ผู้มาพักได้สัมผัสใกล้ชิดกับพรรณไม้นานาพันธุ์ที่ปลูกอยู่บริเวณรอบทะเลสาบ ซึ่งพรรณไม้ที่เลือกมาปลูกนั้นยังตั้งใจเลือก ไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมเพื่อให้สัมผัสการรับรู้ถึงธรรมชาติของคุณเต็มเปี่ยมทุกช่องทางทั้งอายตนทั้ง 5 โดยสมบูรณ์

ยังไม่รวมวิวทิวทัศน์อันเชียวขจีของคุ้งบางกระเจ้า ที่การันตีได้เลยว่าคุณต้องร้องว้าว และไม่คาดคิดว่าในกรุงเทพก็มีสถานที่งดงามเช่นนี้ซ่อนตัวอยู่จริง ๆ

และทั้งหมดนี้ก็เป็น 4 แนวทางสถานที่ท่องเที่ยว สำหรับคนรักสุขภาพที่ไม่ได้เกิดผลเฉพาะในช่วงเวลาที่คุณได้ไปสัมผัส แต่ยังจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ ไอเดีย รวมถึงเคล็ดลับ เทคนิควิธีการดูแลสุขภาพแบบใหม่ ๆ เพื่อสร้างวิถีชีวิตที่ก่อให้เกิดสุขภาพที่ดีควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตประจำวันได้ในทุก ๆ วัน


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้  ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่

ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…

Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter      : @gedgoodlife
Line          : @gedgoodlife
Youtube   : GEDGoodLife ชีวิตดีดี
TikTok      : @gedgoodlife

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close