1. นอนตรงเวลา
การนอนให้เป็นเวลา จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น เพราะสมองจะจดจำว่า เวลานี้เราจะต้องนอน เราก็จะรู้สึกง่วงอัตโนมัติ และนอนหลับได้ดี เวลาของการเข้านอนที่ดีที่สุดคือ 4 ทุ่ม เพื่อให้ช่วงเที่ยงคืนเข้าสู่ช่วงหลับลึก จะได้รับ ‘โกรทฮอร์โมน’ (Growth Hormone) ในการซ่อมแซมร่างกาย
2. นอนปิดไฟเสมอ
เพราะแสงต่าง ๆ สามารถส่งผลกระทบต่อนาฬิกาชีวิตของเราได้ ความมืดจะเป็นสัญญาณที่ทำให้ร่างกายรับรู้ว่า นี่คือเวลาที่เหมาะสมแก่การนอนนั่นเอง
3. งดเล่นมือถือก่อนเข้านอน 30 นาที
เพราะอุปกรณ์มือถือ สมาร์ทโฟน มีผลทำให้หลับยาก แสงสีฟ้าจากหน้าจอ ทำให้ร่างกายรับรู้ว่ายังไม่มืด จึงหลั่งสารเมลาโตนิน ทำให้หลับยาก และเราได้รับข้อมูลเข้ามาตลอดเวลา ทำให้สมองไม่ได้พักผ่อน และนอนหลับไม่ดี คลื่นสมองไม่ปลอดโปร่ง (Alpha Wave) นอนหลับไม่ลึก
4. งดกาแฟ คาเฟอีน ก่อนเข้านอน
กาแฟยามบ่ายแค่แก้วเดียวก็อาจทำให้เราตาค้างไปทั้งคืนได้ ดังนั้น เราจึงควรดื่มคาเฟอีนตั้งแต่เช้า และหากง่วงในช่วงบ่ายก็เลือกดื่มน้ำผลไม้ หรือชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีนแทนจะดีกว่า
5. เลี่ยงความเครียด ก่อนเข้านอน
ความเครียด คือตัวการสำคัญที่ทำให้เรา ปวดหัว อยู่ตลอดเวลา และนอนไม่หลับ แถมยังทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติอีกด้วย
6. ดื่มชา “รากวาเลอเรี่ยน” ช่วยให้นอนหลับสบาย
รากวาเลอเรี่ยน (Valerian Root) ช่วยในการนอนหลับในภาวะนอนไม่หลับ (insomnia) และช่วยเพิ่มคุณภาพของการนอนหลับโดยช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ไม่ตื่นนอนกลางดึก และเกิดอาการง่วงซึมหลังจากตื่นนอนน้อยมาก
7. เลี่ยงเสี่ยงรบกวน
ถ้าหากในห้องมีเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลาจากภายนอก อาจจำเป็นต้องใช้จุกหูฟังปิดหู เพื่อป้องกันเสียงรบกวนดังกล่าว
8. นั่งสมาธิ ผ่อนคลาย 5-10 นาที ก่อนเข้านอน
การทำสมาธิก่อนนอนทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ลดความเครียด ระหว่างนั่งสมาธิหากจิตใจเริ่มฟุ้งซ่าน คิดเรื่องอื่น ๆ ให้กำหนดรู้แล้วละความคิดนั้น กลับมาจดจ่อที่ลมหายใจใหม่
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี