จะหน้าร้อน หรือหน้าหนาว ก็ไม่กังวลเท่าหน้าฝน! ก็หน้าฝนมาทีไร ไข้หวัดก็ถามหาทุกที แถมยังทำให้ร่างกายเปียกชื้น เดินทางก็ลำบากไปหมด แต่จากนี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะGedGoodLife มีวิธีลาขาด ไข้หวัดหน้าฝน พร้อมแนะนำไอเทมต้องมีในฤดูฝนนี้ มาฝากแล้ว มาติดตาม เรียนรู้ สู้ไข้หวัด ไปพร้อม ๆ กันเลย!
– โรคไข้หวัด โรคยอดฮิตตลอดปี! เป็นกี่วันหาย กินยาอะไรดี? สาเหตุ อาการ วิธีรักษา
– วิธีลดหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล แก้น้ำมูกอุดตัน ทำง่าย ได้ผลจริง!
– 6 โรคหน้าฝน ที่ไม่รัก!! ระวังไว้หน่อย จะได้ไม่ป่วย
ฝน ทำให้เป็นหวัด ได้หรือไม่?
แท้จริงแล้ว น้ำฝนไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นหวัด แต่เป็นเพราะเชื้อไวรัสกว่า 200 ชนิด ต่างหากที่ทำให้เราเป็นหวัด ตามที่กล่าวไปข้างต้น
สาเหตุที่ ฤดูฝน มักทำให้คนเราเป็นหวัดได้ง่าย ก็เพราะว่า… เวลาที่ฝนตก จะมีทั้งลม และฝน ที่อาจพัดพาเชื้อไวรัสในอากาศมาติดที่ตัวเราได้ และถ้าเราไปตากฝน เปียกฝนตั้งแต่ศีรษะ ใส่เสื้อผ้าอับชื้นนาน ๆ อุณหภูมิในตัวเราก็จะลดลง เป็นสาเหตุที่ทำให้ไวรัสเจริญเติบโตได้ดี จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็น ไข้หวัดหน้าฝน ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำต้องระวังหน้าฝนให้ดี เพราะจะทำให้ป่วยได้ง่าย
อ่านเพิ่มเติม -> ตากฝนทำให้เป็นหวัด จริงหรือไม่!? พร้อมวิธีกินยาลดไข้ แก้หวัด อย่างถูกต้อง
6 วิธีลาขาด ไข้หวัดหน้าฝน !
1. ไม่ออกไปตากฝน โดนฝน หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรพกร่ม เสื้อกันฝน ติดตัวไว้เสมอ
แก้ปัญหาที่เหตุ ย่อมได้ผลที่ดีเสมอ เมื่อไม่ออกไปโดนฝน ก็ย่อมไม่เป็นหวัดจากฝนนั่นเอง แต่ถ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ จำเป็นต้องพกร่มกันฝน ชุดกันฝนติดตัวไว้เสมอ หรือสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศ เพื่อดูว่า วันไหนฝนตก หรือไม่ตก เป็นแนวทางล่วงหน้า จะได้วางแผนการเดินทางได้ถูกต้อง
2. สวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องเผชิญฝน
ฝนตก การ์ดอย่าตก! เมื่อไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสเข้าไปในโพรงจมูกของเรา การป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือ การสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้หวัดกว่า 200 ชนิด เข้ามาทางจมูกเราได้ รวมถึงไม่ใช้มือขยี้ตา แคะจมูก หรือเอามือเข้าปาก
3. เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอ
บางคนคิดว่า ตากฝนแค่วัน สองวัน ไม่เป็นไรหรอก หวัดไม่ถามหาหรอก… อย่าเพิ่งประมาทไป เพราะถ้าภูมิคุ้มกันเราอ่อนแอ เจอฝน ตัวเปียกชื้น บวกกับลมพัดพาไวรัสมาเกาะที่ตัวเรา เราสูดหายใจเข้าไป ก็พาลพาให้ป่วยเป็นหวัดได้นะ! ฉะนั้น หมั่นสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการ… นอนพักผ่อนให้เพียงพอ, ออกกำลังกายให้แข็งแรง, ทานอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุกใหม่, ดื่มน้ำสะอาด วันละ 6 – 8 แก้ว เป็นต้น
4. หน้าฝนเสริม วิตามินซี ให้มากขึ้น!
วิตามินซี ฮีโร่ต้านหวัด ลดภาวะการติดเชื้อไวรัสได้ โดยปกติคนเราต้องการวิตามินซีเพียง 75-90 มิลลิกรัมต่อวัน เท่านั้น แต่ในกรณีที่ต้องการรับประทานเพื่อป้องกันโรค จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานให้ได้ถึง 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
– “20 ผักผลไม้วิตามินซีสูง” เพื่อสุขภาพดี ๆ ห่างไกลหวัด
5. ไม่คลุกคลี หรือใกล้ชิดผู้ป่วยเป็นไข้หวัด
ถึงแม้เราจะไม่ได้ไปลุยฝนด้วยตัวเอง แต่พอมาถึงที่ทำงาน หรือที่บ้าน คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้อื่นที่ป่วยเป็นหวัด เราก็อาจจะไม่รอด ติดหวัดไปตาม ๆ กันก็ได้! แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
6. เสริมสมุนไพร-ผลไม้ ต้านหวัด
นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย แนะนำให้กินสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ข่า ขิง กระเทียม และขมิ้น เพราะสมุนไพรเหล่านี้มีคุณสมบัติเสริมระบบภูมิคุ้มกันต้านโรคหวัด ส่วนผลไม้ ให้เน้นกินผลไม้รสเปรี้ยว หรือผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีประเภทส้ม มะนาว เกรปฟรุต ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี มะขามเทศ มะขามป้อม และลูกพลับ จะช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้เป็นปกติ และทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี
ไอเทมต้องมี! ป้องกันหวัด รับหน้าฝน
1. ยาบรรเทาหวัด ลดไข้
ฝนมาพาเป็นหวัด ฉะนั้นจะขาดยาแก้หวัดได้อย่างไร! ทั้งนี้ ยารักษาไข้หวัด หรือ ยาแก้หวัด ควรเลือกอย่างถูกต้อง และเหมาะสม
2. หน้ากากอนามัย
เรื่องที่ไม่ต้องบอก ก็คงสวมใส่หน้ากากอนามัยกันเป็นปกติ ในยุคโควิด-19 กำลังระบาด แต่ถ้าหมดโรคระบาดนี้เมื่อไหร่ ก็ต้องพกไว้ในหน้าฝน เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ หรือ จมูก ปาก ของเรานั่นเอง
3. ร่ม หมวก เสื้อกันฝน
นึกถึงหน้าฝน ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงร่มมาก่อนอันดับแรก และที่ขาดไม่ได้อีก 2 อย่างก็คือ หมวก กับ เสื้อกันฝน ถ้าคนไหนขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นประจำ เสื้อกันฝนนี่ขาดไม่ได้เลยนะ ของคู่กายยามฝนมา เลยทีเดียว! ส่วนหมวก มีเตรียมไว้ในรถบ้างสักใบ หรือจะใส่เดินออกนอกบ้านกันแดด กันฝน ก็ได้เลยทันที
4. รองเท้าบูท ถุงหุ้มรองเท้ากันฝน
วันไหนฝนตกหนัก ก็ต้องเลิกห่วงสวย ห่วงหล่อ เข้าสู่โหมดสายลุยกันหน่อย ด้วยรองเท้าบูท แต่ถ้าไม่มี จะใส่ถุงหุ้มรองเท้าเพื่อกันฝนไว้ก็ได้
5. กางเกงขาสั้น
เพื่อความทะมัดทะแมง เดินคล่องตัวกว่าเดิม กางเกงขาสั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าทั้งขายาว และกระโปรง และไม่ทำให้รู้สึกอับชื้นอีกด้วย แต่ถ้าวันทำงาน จำเป็นต้องใส่ขายาว หรือกระโปรง ก็ให้กางเกงขาสั้นเป็นออฟชั่นไว้ใส่ในวันหยุดชิล ๆ ก็ได้
6. เครื่องสำอางกันน้ำ
เรื่องที่สาว ๆ รู้กัน จะปล่อยให้ฝนมาทำลายมาสคาร่า อายไลเนอร์ ไม่ได้! แม้แต่ครีมกันแดดก็ควรเลือกแบบกันน้ำได้ดีเช่นกัน แต่ตอนล้างหน้า ก็ต้องทำความสะอาดให้ดีหน่อย เครื่องสำอางจะได้ไม่ตกค้างที่ใบหน้านั่นเอง
รู้หรือไม่? คำว่า “เครื่องสำอาง” ไม่มี ค์ ตามหลักภาษาไทยนะ รู้ไว้ใช้ให้ถูก
7. แอพลิเคชั่นเช็คสภาพอากาศ
ยุคดิจิตอลทั้งที ก็ต้องใช้สมาร์ทโฟนให้เป็นประโยชน์ ด้วยการติดตั้งแอพลิเคชั่นเช็คสภาพอากาศ ที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน หรือวางแผนดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจ เช่น วันที่ต้องซักผ้า ตากผ้า เป็นต้น หรือถ้าใครไม่มีสมาร์ทโฟน ก็สามารถฟังพยากรณ์อากาศจากทางทีวี หรือ วิทยุก็ได้
8. กระเป๋า / ซองใส่เอกสารกันน้ำ
เปลี่ยนจากกระเป๋าคู่ใจใบแพง เป็นกระเป๋าราคาไม่แพงแต่ตรงประเด็นกันน้ำ กันฝน ป้องกันข้าวของข้างในเสียหายได้ จะดีกว่าในหน้าฝนนี้
9. ทิชชู่ / ทิชชู่เปียก
เดินย่ำน้ำมาใหม่ ๆ อาจเจอน้ำกระเด็นใส่ขา เป็นคราบดำ ๆ มันน่าดูที่ไหน ต้องมีทิชชู่ / ทิชชู่เปียก มาเช็ดชำระล้างให้ทันใจ พกไว้เลยในกระเป๋าขนาดเล็ก ๆ เบา ๆ ไม่ได้เป็นภาระมากมาย
เช็กกันเลยว่า ไอเทมที่กล่าวไปข้างต้น เรามีครบกันหรือยัง? โดยเฉพาะ ยาบรรเทาหวัด ลดไข้ หน้ากากอนามัย ร่มกันฝน เป็น 3 สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ ในหน้าฝนนี้ และก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรงกันด้วยนะ ^^
