ภูมิแพ้ขึ้นตา คันตา แสบตา น้ำตาไหล เป็นแล้วต้องรีบรักษาให้ถูกจุด!

ภูมิแพ้ขึ้นตา

เจ็บตาไม่หายสักที โดนฝุ่น โดนอากาศข้างนอกมาทีไรก็มักมีอาการ คันตา แสบตา น้ำตาไหล ตาแดงบวมไปหมด แบบนี้อาจเสี่ยงเป็น “ภูมิแพ้ขึ้นตา” ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รักษาให้ถูกจุด ก็อาจทำให้เกิดความพิการทางสายตาได้เลยทีเดียว! แล้วเราจะดูแลรักษาโรคนี้ได้อย่างไร GED good life มีคำตอบมาให้แล้ว มาติดตามกันเลย!

โรคภูมิแพ้ดูแลด้วย "อัลเลอร์นิค" ยาแก้แพ้ชนิดเม็ด กลุ่มไม่ทำให้ง่วง

รู้จักกับ ภูมิแพ้ขึ้นตา โรคที่พบบ่อยในทุกเพศทุกวัย!

ภูมิแพ้ขึ้นตา หรือ โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Conjunctivitis) คือ ภาวะที่มีอาการอักเสบแดงของเยื่อบุตาด้านนอกของตาขาว ที่เกิดจากร่างกายมีการตอบสนองไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น มลภาวะในอากาศ PM2.5 ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ใบไม้ ขนสัตว์ มาสัมผัสกับเยื่อบุตา แล้วกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้

ภูมิแพ้ตาเกิดร่วมกับภูมิแพ้อื่น ๆ ได้

เห็นชื่อโรคเป็นภูมิแพ้ตา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเกิดขึ้นเฉพาะแค่ที่ตาเท่านั้น เพราะ โรคนี้สามารถเกิดร่วมกับผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอจามเรื้อรัง น้ำมูกไหล ผิวหนังอักเสบ หรือคันที่ผิวหนังร่วมด้วย ผู้ป่วยบางรายมีอาการเพียงบางตำแหน่งของร่างกาย ในขณะที่บางรายเป็นทุกส่วนร่วมกัน

เกร็ดความรู้ : เยื่อบุตา (conjunctiva) เป็นเยื่อบางใส ที่คลุมส่วนของตาขาว ยกเว้นบริเวณตาดำหรือกระจกตา ทำหน้าที่หล่อลื่นตาโดยการผลิตเมือกและน้ำตา และยังมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้จุลชีพหรือเชื้อโรคผ่านเข้าสู่ดวงตา และคนที่เป็นภูมิแพ้จะมีการอักเสบของเยื่อบุตามากกว่าคนปกติ

สาเหตุ และอาการแพ้

ภูมิแพ้ขึ้นตา สามารถแยกสาเหตุ และอาการแพ้ ได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

กลุ่มที่ 1 : อักเสบเฉพาะที่เยื่อบุตา ไม่กระทบต่อกระจกตา (แบบเฉียบพลัน) ถือเป็นโรคภูมิแพ้ทางตาที่พบได้บ่อยที่สุด จะมีทั้งเป็นตามฤดูกาล หรือเป็นแบบต่อเนื่อง มักจะมีอาการภูมิแพ้ของเยื่อบุโพรงจมูกร่วมด้วย

สาเหตุ

  • มักเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้ขนสัตว์ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ (ภูมิแพ้ตามฤดูกาล) รา หรือสปอร์ของรา

อาการแพ้ที่พบ

  • มีอาการคันตา ตาบวม
  • ตาแดง
  • น้ำตาไหล
  • สู้แสงไม่ได้

กลุ่มที่ 2 : มีการอักเสบของเยื่อบุตาเรื้อรัง และกระทบที่กระจกตา (แบบเรื้อรัง) เป็นกลุ่มที่ต้องระวังกว่ากลุ่มที่ 1 เพราะ กลุ่มนี้มีอาการกระทบที่กระจกตาร่วมด้วย

สาเหตุ

  • มักพบในผู้ใส่คอนแทคเลนส์ เยื่อบุตาสัมผัสกับยา หรือเครื่องสำอางที่แพ้ หรือในผู้ป่วยที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือหอบหืดมาก่อนแล้ว

อาการแพ้ที่พบ

  • มีอาการคันตามาก รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา
  • น้ำตาไหล ขี้ตาเหนียว
  • ตาแดง ตามัว สู้แสงไม่ได้
  • ผิวหนังบริเวณเปลือกตาจะเป็นขุย แดง บวม
  • มีเมือก และตุ่มที่เยื่อบุตาด้านบนข้างในของเปลือกตา (มักพบในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์)

ภูมิแพ้ขึ้นตา

ภูมิแพ้ขึ้นตาทำให้ตาบอด ได้หรือไม่?

การเกิดภูมิแพ้ที่กระจกตา ถ้าเป็นไม่มากก็ไม่เกิดอันตรายอะไร แต่ถ้ามีอาการแพ้เรื้อรัง ปล่อยไว้ไม่รักษา ไม่ไปพบแพทย์ จนถึงขั้นเป็นแผลเรื้อรังที่กระจกตา อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน รักษาได้ยาก และอาจเสี่ยงเป็นโรคต้อหินมากขึ้น และร้ายแรงสุดคือ สูญเสียการมองเห็นได้

ภูมิแพ้ขึ้นตา มีวิธีรักษาอย่างไร และสามารถหายขาดได้หรือไม่?

การรักษาภูมิแพ้ขึ้นตา มีทั้งแบบใช้ยา และไม่ต้องใช้ยา แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาและป้องกันภูมิแพ้ขึ้นตา คือ การหลีกเลี่ยงสิ่งที่เราแพ้ ถ้าหากเราหลีกเลี่ยงได้ อาการแพ้ก็จะไม่มารังควาญเราอีก แต่ถ้าหากเราไม่หลีกเลี่ยงต่อให้รักษาด้วยยา หรือไปพบแพทย์มาแล้ว สุดท้ายก็จะไม่หาย และก่อให้เกิดอาการเรื้อรังอีกด้วย!

วิธีรักษาอาการแพ้ด้วยยา

  1. หากมีอาการคันที่ผิวหนัง คันตา ไอ จาม เนื่องจากภูมิแพ้ สามารถกิน “ยาแก้แพ้ชนิดไม่ง่วง” เพื่อบรรเทาอาการ
  2. การใช้ยาหลอดยา ซึ่งมีให้เลือกหลายประเภท ควรใช้ตามคำแนะนำจากแพทย์ หรือ เภสัชกรเท่านั้น

* ยากลุ่มสเตียรอยด์ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทําให้เกิดโรคต้อหิน ซึ่งทําให้ตาบอดได้

วิธีรักษาแบบไม่ใช้ยา

  1. หลีกเลี่ยงสารที่แพ้ เช่น ละอองเกสรพืช อากาศ ไรฝุ่น เป็นต้น ผ้าปูที่นอนควรใช้แบบกันไรฝุ่นได้ด้วย
  2. ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ ล้างตาเพื่อเอาสารที่แพ้ออกทันที

ใครที่เป็นภูมิแพ้เกี่ยวกับจมูก หรือหอบหืดด้วย ก็ควรรักษาไปด้วยพร้อม ๆ กัน เพราะจะทำให้ได้ผลการรักษาดีขึ้น

วิธีดูแลตนเอง ห่างไกลจากภูมิแพ้ขึ้นตา

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ หรือสารเคมี สิ่งแปลกปลอมที่รู้ว่าแพ้ และทำให้เกิดภูมิแพ้
  • รักษาความสะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะหากใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำ ล้างมื่อทุกครั้งก่อนถอด หรือใส่คอนแทคเลนส์
  • ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 12 ชั่วโมง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีความแข็งแรง
  • ควรรับประทานผัก ผลไม้ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย และทำให้ภาวะภูมิแพ้ดีขึ้นในระยะยาว

 

อ้างอิง : 1. รพ.พญาไท 2. th.wikipedia 3. รพ.รามาธิบดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close