วิธีสังเกตอาการผื่น ทั้ง 6 ประเภท

วิธีสังเกตอาการผื่น ทั้ง 6 ประเภท

วิธีสังเกตอาการผื่น

1. ผื่นคันแดงตามตัว Exanthematous (Morbilliform)

หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Rash เป็นลักษณะของผื่นที่พบได้ทั่วทั้งตัว และพบได้บ่อยสุด โดยผิวหนังบริเวณที่มีอาการคันจากเปลี่ยนสีเดิมโดยอาจมีสีแดง มีผื่น และอาการคันเป็นจุดแดง ๆ หรือตุ่มใส บางครั้งอาจมีการตกสะเก็ดตามมา

2. ผื่นลมพิษ หรือบางครั้งเรียกโรคลมพิษ (Urticaria)

เป็นลักษณะอาการทางผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่แสดงออกมาในรูป ผื่น หรือปื้นนูนแดง ไม่มีขุย สามารถมีขนาดตั้งแต่เล็กเพียง 0.5 จนถึงใหญ่ราว10 ซม. โดยปกติจะมีอาการคันร่วม และเกิดขึ้นอย่างเร็ว และกระจายตามตัว แขนขา แต่จะปรากฎอยู่เพียงชั่วขณะ โดยมากมักไม่เกิน 24 ชั่วโมง ผื่นลมพิษ เหล่านั้นก็จะราบไปโดยไม่มีร่องรอย สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้บ่อย ๆ ในคนที่เป็นโรคประจำตัว

3. ผื่นตุ่มน้ำพองใส (Vesiculobullous Eruption)

มีลักษณะเป็นตุ่ม หรือถุงน้ำใส ๆ สามารถพบกระจายอยู่ตามตัวโดยทั่วไป คล้ายผื่นสุกใส

4. ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำ (Dyshidrotic Eczema)

ผื่นลักษณะพิเศษ ชนิดนี้พบมากในเด็ก และผู้ที่มีอายุน้อย เป็นผื่นผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่งที่มักจะเป็นเรื้อรัง เป็น ๆหาย ๆ โดยผื่นจะมีลักษณะตุ่มใส ๆ แข็ง ๆ เกิดที่ฝ่ามือฝ่าเท้า หรือด้านข้าง ๆ นิ้วมือหรือ นิ้วเท้าโดยผื่นชนิดนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับโรคภูมิแพ้ หรือภาวะการระคายเคือง หรือ การแพ้สารสัมผัสก็ได้

ลักษณะโดยทั่วไปที่ตรวจพบ จะมี ตุ่มใส ๆ แข็ง ๆ เกิดที่ฝ่ามือฝ่าเท้า หรือด้านข้าง ๆ นิ้วมือหรือ นิ้วเท้า หรือ ตุ่มอาจจะพองจนมีขนาดใหญ่หลายเซนติเมตรได้ อาจจะมีการคัน ส่วนใหญ่น้ำใส ๆ ด้านในอาจจะเปลี่ยนเป็นหนองจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซ้ำซ้อน และลอกเป็นเป็นแผ่นหนา ๆ ออกไป

5. ผื่นแดงตาข่าย หรือเส้นใยเล็กๆ (Livedo Reticularis)

เกิดจากโรคหลอดเลือดอักเสบ ทำให้ระบบไหลเวียนของเส้นเลือดไหลช้า เกิดลักษณะอาการตัวลาย ๆ คล้ายมีตาข่ายคลุมอยู่บริเวณผิวหนัง ผื่นในลักษณะดังกล่าวพบไม่ค่อยได้บ่อย อาจมีลักษณะเป็นผื่นนูนเป็นจ้ำเลือด ที่เรียกว่า Purpura หรือผื่นลายรูปร่างแหที่เรียกว่า Livedo reticularis ตลอดจนการมีตุ่มกดเจ็บใต้ผิวหนัง หรืออาจเกิดเป็นแผลเรื้อรัง หรือมีการตายของเนื้อเยื่อได้

6. ผื่นจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง  (Vasculitis)  

ที่เกิดจากโรคหลอดเลือดอักเสบ (Cutaneous vasculitis) เป็นผื่นที่เกิดจากเส้นเลือดฝอยอักเสบ โดยส่วนใหญ่พบบริเวณที่ขาเป็นหลัก และอาจกระจายทั่วทั้งขา เป็นอาการผิดปกติของหลอดเลือดในระดับที่รุนแรงกว่าประเภทที่ 5

โดยอาการ และอาการแสดงที่ผิวหนังมีหลายรูปแบบ เช่น เกิด ตุ่มแดง นูน กดแล้วสีแดงไม่จาง ตุ่มพองมีเลือดออกในตุ่มพองแตกเป็นแผล  ผื่นสีม่วงแดงเป็นร่างแห คล้ายตาข่าย ผื่นที่หายอาจเหลือเป็นรอยแผลเป็น หรือหายเป็นผิวหนังปกติ ขึ้นกับการอักเสบของหลอดเลือดที่เกิดขึ้น

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่ คลิก -> ทำความเข้าใจ ผื่น ทั้ง 6 ประเภท และผื่นแย่แค่ไหนถึงควรพบแพทย์

อ้างอิง :

www.si.mahidol.ac.th  www.skinhospital.co.th  https://amprohealth.com  https://bupa.co.th  http://healthydee.moph.go.th


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้  ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่

ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…

Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter      : @gedgoodlife
Line          : @gedgoodlife
Youtube   : GEDGoodLife ชีวิตดีดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close