เราอาจจะคุ้นเคยกับ “โปรไบโอติก” (Probiotic) กันบ้างว่าคือ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ แต่นอกจากโปรไบโอติกแล้ว พรีไบโอติกก็จำเป็นเช่นกัน ว่าแต่... พรีไบโอติก คืออะไร? แล้วอาหารอะไรบ้างที่มีพรีไบโอติกสูง? ตามมาดูคำตอบกันเลย
พรีไบโอติก (Prebiotic) คือใยอาหารชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อย และดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก อาหารเหล่านี้จึงสามารถเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ได้ในรูปไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อไปเลี้ยง หรือส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ทำให้แบคทีเรียชนิดที่มีผลเสียต่อสุขภาพลดจำนวนลง
พรีไบโอติกที่มีการใช้มากที่สุดคือ Fructo-Oligosaccharide: FOS และ Inulin
Fructo-Oligosaccharide: FOS และ Inulin ใยอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้ ถือว่ามีขนาดค่อนข้าง
เล็ก และละลายน้ำได้ดี ซึ่งใยอาหารทั้ง 2 มีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดโมเลกุล
1. Inulin (อินนูลิน) เปรียบเสมือนพี่ใหญ่ มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เป็นสารจำพวกโพลิแซ็กคาไรด์ที่พืชสะสมเป็นอาหาร โดยประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำตาลฟรุกโตสต่อกันยาวตั้งแต่ 3-60 โมเลกุล และมีน้ำตาลกลูโคสอยู่ที่ปลายสุด โดยประมาณ 70% ของอินนูลินจะเป็นโพลิเมอร์ที่มีน้ำตาลมาก
กว่า 10 โมเลกุลต่อกัน โดยพบในพืชมากกว่า 36,000 ชนิด เช่น รากชิโครี เห็ด หัวหอม กระเทียม
กล้วย
2. Fructo-Oligosaccharide: FOS หรือ Oligofructose (โอลิโกฟรุคโตส) เปรียบเสมือนน้องเล็ก เนื่องจากมีขนาดโมเลกุลเล็กกว่า อินนูลิน จัดเป็นสารจำพวก Resistant Oligosaccharides (non-digestible oligosaccharides) คือ ไม่สามารถถูกย่อยโดยเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ได้ แต่ถูกย่อยโดยแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ พบมากในข้าวสาลี ข้าวไรย์ หัวหอม ถั่วเหลือง โกโบ้ และพืชประเภทพืชหัว โดยมีความหวานประมาณ 30% ของน้ำตาลทราย
1. ช่วยกระตุ้นการเจริญของอินนูลิน และ โอลิโกฟรุกโตส โดยเฉพาะ Bifidobacterium ช่วยป้องกันการติดเชื้อในลำไส้ และป้องกันอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อ
2. ช่วยควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ก่อโรคในร่างกาย
3. ช่วยลดสารพิษหลายชนิดที่อาจสะสมตามผนังลำไส้
4. ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน
5. ส่งเสริมการดูดซึมแร่ธาตุ โดยเฉพาะแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งอาจช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
6. ลดการดูดซึมคลอเลสเตอรอลที่มากับอาหารและที่ขับออกมาในรูปน้ำดี
7. ป้องกันมะเร็งลำไส้
8. ลดน้ำตาลในเลือด โดยการกระตุ้นฮอร์โมนอินเครทิน (incretin) ที่ลำไส้
พรีไบโอติก พบได้ในอาหารบางประเภท เช่น กล้วย หอมหัวใหญ่ กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง และข้าวสาลี รวมทั้งในนมแม่ยังอุดมไปด้วยพรีไบโอติกตามธรรมชาติ
1. หอมหัวใหญ่ เป็นอาหารที่มีพรีไบโอติกสูง และ หอมหัวใหญ่ยังเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญมากมาย
2. หน่อไม้ฝรั่ง นอกจากมีพรีไบโอติกสูงแล้ว หน่อไม้ฝรั่งยังเป็นผักที่มีกากใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องการกระตุ้นระบบขับถ่ายลูกน้อยได้ดี
3. กล้วย กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญต่อร่างกายของคนเรา อีกทั้งยังมีไฟเบอร์จำนวนมหาศาล ที่ช่วยรักษาอาการท้องผูก และกระตุ้นการขับถ่ายได้
4. กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีพรีไบโอติกสูง และยังสามารถนำมาทำอาหารให้ลูกได้หลากหลาย รับประทานง่าย นอกจากนี้กะหล่ำปลียังเป็นแหล่งของวิตามินบี และวิตามินซีที่ดีด้วย
5. แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลถือว่าเป็นผลไม้มหัศจรรย์ ที่ดีกับร่างกายมาก ๆ แอปเปิ้ลมีสารต้านอนุมูลอิสระ เและมีไฟเบอร์เพคตินธรรมชาติ ซึ่งดีระบบขับถ่ายของลูกน้อย แอปเปิ้ลยังเป็นแหล่งของใยอาหารธรรมชาติ หรือ พรีไบโอติก อย่างอินนูลิน และโอลิโกฟรุคโตสด้วย
NUTROPLEX OLIGO PLUS ( นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ) วิตามินรวมสำหรับเด็กกินยาก ไม่กินข้าว ที่อาจทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ มีส่วนผสมของมัลติวิตามิน ใยอาหารธรรมชาติและธาตุเหล็กสูง กระตุ้นการขับถ่าย เสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส เป็นวิตามินรวมสำหรับเด็กตัวเดียวที่มี “ธาตุเหล็ก” ซึ่งมีส่วนเสริมสร้างและพัฒนาสมอง
นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส มี Oligofructose ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Prebiotic และใยอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยในการปรับสมดุลย์ด้านระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มกากใยให้กับระบบทางเดินอาหาร ป้องกันท้องผูกได้ดี
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี