ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบได้บ่อย ทำให้เกิดอาการ คัน แดง แห้ง ลอก หรืออักเสบ โดยอาจเกิดจาก ปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือภูมิคุ้มกันไวเกิน และปัจจัยภายนอก เช่น สารก่อภูมิแพ้ อากาศแห้ง หรือสารเคมีระคายเคือง หากปล่อยไว้อาจลุกลามหรือกลายเป็นอาการติดเชื้อได้ จึงควรสังเกตอาการและรับมืออย่างเหมาะสม
ผื่นแพ้ผิวหนัง ภูมิแพ้ผิวหนัง คืออะไร
ผื่นแพ้ผิวหนัง หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดอาการคัน ผิวแห้ง ลอก และอักเสบ บางรายอาจมีอาการเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ มักพบได้บ่อยในเด็ก และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัย ปัจจัยกระตุ้นอาจมาจาก สารก่อภูมิแพ้ ความเครียด อาหารบางชนิด หรืออากาศแห้ง
[H2] อาการผื่นแพ้ผิวหนัง มีอะไรบ้าง
ภูมิแพ้หรือผื่นแพ้ผิวหนัง (Allergic contact dermatitis) เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคืองต่าง ๆ โดยอาการที่พบบ่อยมีดังนี้
1. ผิวหนังแดง คัน และมีผื่นขึ้น
เป็นอาการเริ่มต้นที่พบบ่อยที่สุด โดยจะรู้สึกคันมากบริเวณที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ผิวอาจดูแดงหรือบวมเล็กน้อย
2. มีผิวแห้ง ลอก หรือแตกลาย
ผื่นอาจทำให้ผิวแห้งเป็นขุยหรือแตกร้าว โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นเรื้อรังหรือมีประวัติผิวแพ้ง่าย
3. มีตุ่มน้ำใสหรือตุ่มแดง
บางรายอาจมีตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ หรือผื่นตุ่มแดงกระจาย หากเกาอาจทำให้ตุ่มแตกและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
4. เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ
หากผื่นรุนแรง หรือเกาจนแผลเปิด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน ส่งผลให้ผิวบวมแดง ร้อน และเจ็บ
สาเหตุของอาการผื่นแพ้ผิวหนัง
อาการผื่นแพ้ผิวหนัง อาจเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งแบ่งออกเป็นสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- พันธุกรรม หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ อาจมีโอกาสเป็นผื่นแพ้ผิวหนังสูงขึ้น
- ภูมิคุ้มกันไวเกิน ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้มากเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบ
- สารก่อภูมิแพ้ภายนอก เช่น ไรฝุ่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรือเกสรดอกไม้
- อากาศแห้งหรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดอาการคัน
- สารเคมีระคายเคือง เช่น น้ำหอม สบู่ แอลกอฮอล์ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- ความเครียดและฮอร์โมน ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและกระตุ้นอาการให้รุนแรงขึ้น
วิธีสังเกตผื่นแพ้ ภูมิแพ้ผิวหนัง
สามารถสังเกตอาการของผื่นแพ้ผิวหนัง ได้จากลักษณะผื่นและอาการที่เกิดขึ้น ดังนี้
- ลักษณะผื่น: ผื่นแดง คัน ผิวแห้งลอก อาจมีตุ่มน้ำใส หรือผิวหนังแตกเป็นขุย
- ตำแหน่งที่พบ: มักเกิดบริเวณข้อพับ แขน ขา คอ หรือใบหน้า
- ความถี่ของอาการ: หากเกิดขึ้นบ่อย หรือเป็นเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์
- การตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น: ผื่นแย่ลงเมื่อใช้สบู่ แชมพู น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง
ควรกินยาอะไร เมื่อมีอาการผื่นแพ้บนผิวหนัง
หากมีอาการ ผื่นแพ้ผิวหนัง สามารถใช้ยาที่ช่วยลดอาการคันและอักเสบ โดยควรเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับอาการ
- ยาแก้แพ้ (Antihistamines) เช่น ลอราทาดีน (Loratadine) 10.0 มก , เซทิริซีน (Cetirizine) ช่วยลดอาการคันและบวม
- ยาสเตียรอยด์ (Steroid Creams) ใช้ในกรณีที่มีอาการอักเสบหรือแพ้รุนแรง
วิธีรักษาอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
หากมีอาการ ผื่นแพ้ผิวหนัง ควรดูแลรักษาอย่างถูกต้องเพื่อลดการอักเสบและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
- ดูแลผิวให้ชุ่มชื้น ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เพื่อลดอาการแห้งและคัน
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ลดการสัมผัสฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ และสารเคมีที่อาจกระตุ้นอาการ
- ใช้ยาอย่างเหมาะสม เช่น ยาแก้แพ้ที่มีส่วนผสม ลอราทาดีน (Loratadine) 10.0 มก หรือครีมสเตียรอยด์ ตามคำแนะนำของแพทย์
- รักษาความสะอาดของผิว อาบน้ำด้วยน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการใช้สบู่แรง ๆ
- ควบคุมความเครียด เพราะความเครียดอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อย อาจเกิดจากพันธุกรรม ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดอาการ คัน ผิวแห้ง ลอก แสบผิวหนัง และอักเสบ หากอาการรุนแรง ควรใช้ยาแก้แพ้ หรือครีมสเตียรอยด์ ภายใต้การดูแลของแพทย์ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น ดูแลผิวให้ชุ่มชื้น และลดความเครียด เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ