“ไรฝุ่น” ภัยเงียบ ร้ายลึก สาเหตุของโรคภูมิแพ้!

ไรฝุ่น

ขณะที่คุณกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขนั้น อาจมีวายร้ายตัวจิ๋วจ้องทำร้ายเราอยู่! เป็นเหตุให้ตื่นมามีอาการน้ำมูกไหล ไอ จาม หรือคันตามผิวหนังได้ และวายร้ายที่ว่านี้ฝังตัวอยู่ทุกที่ทั่วโลก สร้างวีรกรรมทำให้คนต้องป่วยด้วยโรคภูมิแพ้เป็นจำนวนมาก วายร้ายตัวจิ๋วที่ว่านี้ก็คือ “ไรฝุ่น” นั่นเอง! เจ้าตัวไรฝุ่นนี้จะร้ายขนาดไหน แล้วจะกำจัดมันได้ยังไง มาหาคำตอบไปกับ Ged Good Life กันได้เลย!

อัลเลอร์นิค ชนิดเม็ด (Allernix™ tablet) ยาบรรเทาอาการแพ้

รู้จักไรฝุ่น ภัยเงียบ ร้ายลึก ตัวการก่อภูมิแพ้

ไรฝุ่น (Dust mites หรือ House dust mite) จัดเป็นแมงตระกูลเดียวกับเห็บ และแมงมุม ตัวไรฝุ่นมีสีขาวใส มีขาทั้งหมด 8 ขา ไม่มีตา ไม่มีระบบทางเดินหายใจ มีขนาดเพียง 0.3 มม. เท่านั้น มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต้องมองผ่านกล้องที่มีกำลังขยายถึง 25 เท่า

– ตัวไรฝุ่นจะเติบโตได้ดีที่สุดในอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จึงทำให้ตัวไรฝุ่นชอบความชื้น สอดคล้องกับตัวเราที่อยู่ในนอนที่มีอุณหภูมิดังกล่าว

– จุดที่พบไรฝุ่นได้บ่อย ๆ ในบ้าน ได้แก่ ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้า และตุ๊กตาขนฟู เป็นต้น

– อาหารของไรฝุ่น คือ เศษผิวหนัง และรังแคจากมนุษย์ และสัตว์ รวมถึงเชื้อรา เศษแมลง ละอองเกสรต่าง ๆ แล้วถ่ายมูลออกมาปะปนอยู่รอบ ๆ บริเวณที่มันอาศัยอยู่

– แพทย์พบว่า สารจากตัวไรฝุ่น ทั้งจากตัว และอุจจาระของมัน เป็นสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคแพ้อากาศ และโรคหอบหืด ผู้ที่อยู่ในบ้านที่มีระดับไรฝุ่นมากกว่า 100 ตัว / ฝุ่น 1 กรัม จะมีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ได้มากโดยเฉพาะโรคหอบหืด

ไรฝุ่น สาเหตุอันดับ 1 ทำคนไทยป่วยโรคภูมิแพ้

เชื่อหรือไม่ ไรฝุ่น คือตัวการทำให้คนไทยจำนวนถึง 20 ล้านคน ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ซึ่งเป็นโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (หรือภูมิแพ้อากาศ) และโรคภูมิแพ้ของทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ โรคหืดภูมิแพ้ อีกประมาณ 4 ล้านคน เลยทีเดียว พบผู้ป่วยเด็กร้อยละ 70 ผู้ใหญ่ร้อยละ 70-90 และคนทั่วไปร้อยละ 30 ที่แพ้ไรฝุ่น

สถิติของสาเหตุการแพ้ในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้

  • แพ้ไรฝุ่น 60-80%
  • แพ้แมลงสาป 40+%
  • แพ้ขนสัตว์ 10%
  • แพ้เกสรดอกไม้ 10%
  • แพ้เชื้อรา 2-10%
  • แพ้อาหาร 1-5%

ไรฝุ่น ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้อย่างไร?

นายแพทย์ปวีณ เพชรรักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน โสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) ได้กล่าวไว้วว่า “ผู้ที่สัมผัสกับตัวไรฝุ่น หรือซากไรฝุ่น ก็สามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้เช่นกัน แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้คือ “มูลของไรฝุ่น” ที่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ เพราะมูลของไรฝุ่น มีสารโปรตีนที่เข้าไปกระตุ้น ส่งผลให้เกิดอาการภูมิแพ้ เช่น ไอ จาม คันตา หายใจไม่ออก และอาจลามไปถึงการเกิดภูมิแพ้ผิวหนังได้”

หลายคนมีความเข้าใจผิดว่า ไรฝุ่นกัดเราจึงทำให้เกิดอาการคัน เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง แต่แท้จริงแล้ว ไรฝุ่นจะไม่ต่อยหรือกัดคน บางคนที่เกิดอาการคัน หรือระคายเคืองบริเวณผิวหนัง ไม่ได้เกิดจากไรฝุ่นกัด แต่เกิดจากการไปสัมผัสถูกของเสียของไรฝุ่น จนเกิดอาการคัน หรือถ้าไม่ได้เกิดจากไรฝุ่น ก็อาจเกิดจากโดนยุง มด แมง แมลงกัดขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่ก็เป็นได้

4 โรคภูมิแพ้ ที่มักเกิดจากไรฝุ่น

รูปร่าง และลักษณะของตัวไรฝุ่น

อาการสำคัญจากภูมิแพ้ไรฝุ่น

– อาการทั่วไปของภูมิแพ้ อาการทั่วไปที่พบได้ คือ อาการไอ จาม น้ำมูกไหล แน่นจมูก คัดจมูก มีผื่นคัน

– อาการผู้ป่วยโรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ จะมีอาการแน่นจมูก น้ำมูกไหล ซึ่งเกิดจากภาวะอักเสบในโพรงจมูกทำให้ตรวจพบโพรงจมูกบวม ซีดได้

– อาการผู้ป่วยโรคหืด แพทย์ก็จะตรวจพบเสียงปอดผิดปกติไป คือมีเสียงวี๊ด

– อาการโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ นอกจากอาการไอ จาม น้ำมูกไหล แล้วก็มักจะมีอาการคัน ผื่นแดง ตุ่มบริเวณผิวหนัง


เมื่อมีอาการภูมิแพ้ไรฝุ่น ควรทำอย่างไรดี?

เมื่อรู้ว่ามีภาวะภูมิแพ้ หรือ ว่าตัวเองแพ้อะไร เราอาจจะพยายามหลีกเลี่ยงได้ แต่ไรฝุ่น ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ค่อนข้างกำจัดยาก เลี่ยงยาก จึงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย เมื่อมีอาการภูมิแพ้ที่ไม่รุนแรง เราอาจปรึกษาเภสัชกร ซื้อยาแก้แพ้ที่ปลอดภัย เพื่อบรรเทาอาการแพ้เบื้องต้นได้

ยาแก้แพ้ ลอราทาดีน ช่วยแก้อาการภูมิแพ้ไรฝุ่นได้

ยา Loratadine คือยาแก้แพ้หรือยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่ 2 หรือที่เรียกกันว่า “ยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วง” เนื่องจากยาซึมเข้าสู่สมองส่วนกลางน้อยกว่ายาแก้แพ้รุ่นที่ 1 ทำให้มีความปลอดภัยกว่า และเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า ใช้ลดอาการที่เกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ เช่น คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คันตา บรรเทาอาการน้ำมูกไหล ใช้รักษาลมพิษ และโรคผิวหนังที่เกิดจากภูมิแพ้

อ่านเพิ่มเติม -> รู้มั้ย ลอราทาดีน คือยาอะไร รักษาอาการอะไรได้บ้าง?


วิธีลด ป้องกัน หลีกเลี่ยงไรฝุ่นในบ้าน ที่แพทย์แนะนำ…

1. บริเวณบ้านไม่ควรมีพรม โซฟาไม่ควรเป็นผ้า ควรหลีกเลี่ยงผ้าม่านใช้เป็นมู่ลี่แทน

2. ซักเครื่องนอนด้วยน้ำร้อน (>55°C) ถ้าเครื่องซักผ้าไม่มีระบบน้ำอุ่นให้แช่ผ้าในน้ำร้อน ประมาณ 15-30 นาที จึงค่อยน้ำไปตาก หรือใช้เครื่องอบผ้าที่อุณหภูมิมากกว่า 55°C นานมากกว่า 10 นาที

3. เครื่องนอนทั้งหมดควรใช้ผ้าคลุมกันไรฝุ่น ซึ่งผ้าคลุมกันไรฝุ่นที่ดีจะเป็นผ้าถักทอแน่น ขนาดของรูที่ผ้าจะมีขนาดเล็กมากจนตัวไรฝุ่นเอง หรือมูลไรฝุ่นไม่สามารถฟุ้งกระจายขึ้นมาได้ และเมื่อเลือกซื้อผ้าคลุมกันไรฝุ่น ควรใช้ทั้งชุด หมอน หมอนข้าง ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน และใช้ทั้งบ้าน

4. เครื่องนอนควรซักประมาณ 2 สัปดาห์ครั้ง แต่สำหรับผ้าคลุมกันไรฝุ่นอาจซัก 1 เดือนครั้ง การซักบ่อยทำให้เส้นใยที่แน่นคลายออกได้

5. เครื่องฟอกอากาศ ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ที่ฟุ้งกระจายได้ แต่ไรฝุ่นมักไม่ลอยอยู่ในอากาศ เครื่องฟอกอากาศช่วยลดสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ได้ เช่น ขนสัตว์ ละอองหญ้า

6. ควรเก็บตุ๊กตาที่มีขนออกให้หมด หรือหุ้มด้วยถุงพลาสติก

7. จัดบ้าน หรือห้องนอนให้แสงแดดส่องทั่วห้อง เพื่อช่วยให้ความชื้นลดลง และยังเป็นการใช้แสงแดดช่วยฆ่าไรฝุ่นด้วย

8. การดูดฝุ่นจะช่วยลดปริมาณไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ได้บางส่วน ควรใช้ร่วมกับวิธีอื่น ๆ

หากใครทำทุกอย่างตามนี้แล้ว อาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือหอบหืดยังไม่ดีขึ้น เห็นทีต้องพบแพทย์โรคภูมิแพ้แล้ว เพราะอาจแพ้อย่างอื่นนอกเหนือจากไรฝุ่น หรือโรคอาจเป็นมากจนต้องให้แพทย์ดูแลรักษาให้ต่อไป

 

อ้างอิง : 1. allergyasthmathailand 2. Siriraj Channel 3. โรงพยาบาลพญาไท

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close