“ยิ่งห่างเท่าไหร่ ยิ่งใกล้กว่าเดิม” เพราะความห่าง คือความห่วงใยที่แท้จริง

COVID-19
23 ก.ค. 20
166

ในปี 2020 ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างรวดเร็ว กระทันหัน อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จะส่งผลกระทบทั้งในด้านเศษฐกิจ สังคม และวิถีการใช้ชีวิตของพวกเราทุกคน ซึ่งหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตในสังคม (New Normal) ก็คือ การเว้นระยะห่างทางกายภาพ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการควบคุมโรค และประคับประคองให้การแพร่ระบาดอยู่ในระดับที่ระบบการสาธารณะสุขจะรองรับได้

ทางบริษัท ดีคอลเจน จำกัด จึงขอมอบเพลง “ ห่างกำลังดี ” เพื่อเป็นกำลังใจต่อคนในสังคมไทย ให้ใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดโควิด 19 นี้ โดย ศิลปินเพลง : KANDIKEV X GED ผู้แต่ง : STICKYRICEKILLAH ผลิตเพลง: Kevin Inthawong (Kandikev) ท่าเต้น : Takayuki Issarangkul Na Ayuthaya นักแสดง: KONGFIREFOOT & CREW

สามารถหาฟังกันได้แล้วที่

Youtube https://www.youtube.com/watch?v=pZDnkcAxUyE
Spotify : https://spoti.fi/2Vj4k0V
Apple Musics : https://apple.co/31en3hR
iTunes : https://apple.co/2Z4soWs

ซึ่งเนื้อหาในเพลงเน้นการสื่อสารเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวตามคำแนะนำในมาตรการเว้นระยะห่างทางกาย เพื่อสุขภาพกายที่ดี และสุขภาพจิตที่มั่นคง สามารถเดินก้าวผ่านปรากฎการณ์ปี 2020 ไปได้อย่างสบาย ๆ อันได้แก่

1. การเว้นระยะห่าง 1.5 – 2 เมตร

ผลการศึกษาในช่วงเริ่มต้นพบว่าระยะความใกล้ชิดทางกายภาพส่งผลต่อสถิติการแพร่เชื้ออย่างมีนัยยะ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักพร้อมปฎิบัติอย่างเคร่งครัดในช่วงเวลานี้คือการเว้นระยะห่าง 1.5 – 2 เมตรจากบุคคลรอบข้าง ทั้งการเดินสวนทางกัน การใช้บริการขนส่งสาธารณะ การนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร และการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นทั่วไป

2. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์

เพราะมือคืออวัยวะสำคัญที่รับ และส่งต่อเชื้อไวรัสผ่านการสัมผัส เราจึงควรให้ความสำคัญกับการล้างมือให้บ่อย และถูกวิธี ซึ่งในกรณีทีล้างด้วยน้ำ ควรใช้สบู่หรือสารทำความสะอาดมือที่มีประสิทธิภาพทำการล้างให้ทั่วบริเวณทั้งหน้า และหลังฝ่ามือ เป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 นาที หรือ ชั่วระยะเวลาการร้องเพลงแฮปปี้เบริด์เดย์จบหนึ่งรอบ รวมถึงพยายามอย่าใช้สัมผัสบริเวณใบหน้า จมูก ปาก ตา และหมั่นทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอลล์เจลล้างมือ ที่มีความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 70 % เมื่อไม่สามารถใช้น้ำทำความสะอาดได้ เท่านี้ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการรับสัมผัสแพร่เชื่อลงได้มาก

3. สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในที่สาธารณะ

สิ่งหนึ่งที่ควรกระทำควบคู่ไปพร้อมกับคำแนะนำข้างต้นก็คือการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี ตลอดเวลาที่อยู่ในสถานที่สาธารณะ ซึ่งจากการศึกษาล่าสุดได้พบสถิติที่น่าสนใจว่าในพื้นที่ ๆ ประชากรมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอย่างเคร่งครัดนั้นสามารถช่วยลดสถิติการแพร่ระบาดของเชื้อลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และแม้จะไม่มีคำยืนยันถึงผลในการป้องกันได้ 100 % แต่ยังดีเสียกว่าไม่ป้องกันใด ๆ เลย โดยวิธีการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง ผู้ใช้ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน หรือใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หากใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าควรซัก และตากแดดให้แห้งก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ ควรงดการสัมผัสหน้ากากอนามัย หากจำเป็นต้องสัมผัสควรล้างมือหลังสัมผัสหน้ากากอนามัยทุกครั้ง

อ่านบทความเพิ่มเติม –> หน้ากากอนามัย ของต้องมี ปี2020! รวมประโยชน์ และวิธีใช้อย่างถูกต้อง

4. ติดตามข่าวสาร และปฎิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข

ในวิถีการใช้ชีวิตใหม่หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 สิ่งหนึ่งที่ควรปฎิบัติเพื่อความปลอดภัยและสบายใจของตัวท่านเอง คือการเช็คอินการเข้าออกสถานที่ ที่ท่านได้ไปใช้บริการ ให้เป็นประจำ เพราะหากมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงใด ๆ ท่านสามารถที่จะมีบันทึกไว้ตรวจสอบ และเฝ้าสังเกตอาการได้อยากทันท่วงที่

โดยจากข้อมูลสถิติพบว่าหากมีการสัมผัสได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการออกมาภายใน 1 วัน ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ โดยอาการเริ่มแรกส่วนใหญ่จะเริ่มจากการมีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจหอบเหนื่อย ถ่ายเหลวท้องเสีย ซึ่งหากท่านเคยมีประวัติการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และมีอาการในข้างต้นปรากฎอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ควรรีบติดต่อแพทย์ทางโทรศัพท์เพื่อประเมินอาการอย่างละเอียด รวมถึงนัดหมายเข้ารับการตรวจในขั้นตอนต่อไป

5. ติดต่อกับคนใกล้ชิดด้วยการเครื่องมือสื่อสาร แทนการพบเจอกัน

แม้การเว้นระยะห่างทางกายภาพจะเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นตัวแทนความรักความห่วงใยที่มีให้แก่กัน แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน ทำให้เมื่ออยากเจอเพื่อน คิดถึงญาติ หรืออยากนัดประชุมพูดคุยพร้อม ๆ กันจำนวนหลาย ๆ คน ก็สามารถทำได้และปลอดภัยหลายวิธี เช่นการคุยโทรศัพท์แบบเห็นหน้า, VDO Call หรือใช้โปรแกรม Conference เพื่อพูดคุยกัน

แม้ว่าเริ่มต้นสิ่งเหล่านี้จะเป็น New Normal ให้เราต้องปรับตัว ซึ่งอาจทำให้ใครหลายคนแอบคิดถึงบรรยากาศในอดีตที่ ได้ใกล้ชิด ได้คลุกคลี ได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับคนจำนวนมาก ๆ แต่เชื่อว่าการปรับตัวพร้อมทัศนคติที่ถูกต้อง จะช่วยให้เราเดินก้าวต่อไปพร้อมกับวิธีชีวิตใหม่แบบNew Normal ได้อย่างมีความสุข เพราะความรักความห่วงใยที่แท้จริงยามนี้ ถูกแทนค่าด้วยระยะห่างทางกาย ยิ่งห่างกันเท่าไหร่ ยิ่งใกล้ชิดในใจกว่าเดิม เพราะความห่างคือความห่วงใยที่แท้จริง