ฤดูฝุ่น PM2.5 อาการ และโรคที่ต้องระวัง!

ฤดูฝุ่น PM2.5

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นมากขึ้น ฝนเริ่มลดลง ฝุ่นPM2.5 ก็จะมาเยือนทันที จนกลายเป็น ฤดูฝุ่น PM2.5 แทนฤดูหนาวไปแล้ว! ยิ่งในตัวเมือง หรือสถานที่ที่มีมลพิษมาก ต้นไม้น้อย ยิ่งต้องระวัง! หากเห็นหมอกเยอะในช่วงหน้าหนาวนี้ ก็อย่าเพิ่งคิดไปเองว่าเป็นหมอก อาจจะเป็นฝุ่น Pm2.5 ปกคลุมอากาศอยู่ก็ได้ ฉะนั้นมาดูกันว่าอาการ และโรคจากฝุ่น PM2.5 จะมีอะไรบ้าง พร้อมอินโฟกราฟิกป้องกันฝุ่นร้าย

อัลเลอร์นิค ชนิดเม็ด (Allernix™ tablet) ยาบรรเทาอาการแพ้

ทำไมฝุ่น PM 2.5 ชอบมาเยือนในช่วงฤดูหนาว? 

ในช่วงฤดูหนาวนั้น เมื่อความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุม อุณหภูมิของพื้นดินจะเย็นลงตามไปด้วย ทำให้พื้นดินเกิดการคายความร้อนอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ความร้อนที่ถูกคายออกมานั้นจะถูกกักอยู่ระหว่างมวลอากาศเย็น และพื้นดินที่เย็น ลักษณะจะเหมือนเป็นเกราะที่เรียกกันว่า “อากาศปิด” ซึ่งฝุ่นละอองในอากาศก็จะถูกกักอยู่ในนั้นด้วย และไหลย้อนกลับสู่พื้นดิน

สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ช่วงหน้าหนาวเป็นช่วงที่ความกดอากาศสูง ทำให้อากาศนิ่ง ฝุ่นควันต่าง ๆ ไม่สามารถลอยขึ้นสูงได้ จึงอาจเกิดการสะสมในพื้นที่จนเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพเป็นเมืองที่มีฝุ่นละอองในอากาศเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และยังมีตึกรายล้อมเกือบทั้งเมืองด้วย

อาการ และโรคยอดฮิตจากฝุ่น PM2.5

อาการจากฝุ่น PM2.5

  • แสบจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล
  • ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ
  • ระคายเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล
  • หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวี๊ด
  • แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย
  • มีอาการคัน ระคายเคืองผิวหนัง
  • ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย

โรคจากฝุ่น PM2.5

  • อาการภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ
  • ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น
  • ผิวหนังอักเสบ มีผื่นคันที่ผิวหนัง
  • การทำงานของปอดแย่ลง เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ
  • โรคหัวใจ
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังฝุ่น PM2.5

  • เด็ก
  • ผู้สูงอายุ
  • หญิงตั้งครรภ์
  • ผู้ที่เป็นโรคของระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือโรคอุดกลั้นของระบบทางเดินหายในเรื้อรัง
  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด

รู้หรือไม่? ในช่วงฤดูฝุ่น PM2.5 ถ้าหายใจโดยไม่ใส่หน้ากาก จะมีฝุ่นเข้าปอดถึง 78% !!

ผศ.ดร.ว่าน วิริยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เตือนประชาชนไว้ว่า “มีรายงานการศึกษาพื้นที่ภาคเหนือ ถ้าหายใจโดยไม่สวมหน้ากาก จะมีฝุ่นเข้าไปอยู่ในปอดถึง 78% เข้าถุงลมปอด 30% ถ้าเล็กกว่า 1 ไมครอน จะเข้าสู่กระแสเลือดเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคสมอง หรือสโตรก สารในฝุ่นเป็นสารก่อมะเร็ง ยิ่งฝุ่นเล็ก มีการก่อมะเร็งสูงกว่าฝุ่นใหญ่

ฉะนั้น การเลือกหน้ากากต้องมีประสิทธิภาพการกรองของหน้ากากเป็นไปตามมาตรฐาน และมีความแนบชิดของใบหน้า ซึ่งคนส่วนใหญ่ละเลย ยังไม่พูดถึงหน้ากากของปลอมที่พบเยอะมาก แนะนำให้ซื้อในตามโรงพยาบาล และร้ายขายยา ไม่ใช่ซื้อตามตลาดนัด หรือริมทาง ถ้าราคาถูกเกินไปคาดว่าปลอม ส่วนเครื่องกรองอากาศห้อยคอเชิงไม่สามารถป้องกันฝุ่นได้เหมือนที่โฆษณา ไม่แนะนำให้ใช้”

6 วิธีดูแล ป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 แบบง่าย ๆ

1. สวมหน้ากากอยู่เสมอ – โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยประเภท N95 ซึ่งหน้ากากชนิดนี้ต่างจากหน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไป เนื่องจากสามารถป้องกันฝุ่นขนาด 0.1 – 0.3 ไมครอน ได้ 95%

2. หลีกเลี่ยงมลพิษ – เช่น ตามแหล่งที่มีการเผาทางการเกษตร, ถนนที่มีรถสัญจรไปมามากโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะจะมีการปล่อยควันพิษตลอดเวลา, ตามแหล่งนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

3. เลี่ยงออกกำลังกายกลางแจ้ง – ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพก็ตาม แต่เมื่อมีการสัมผัสมลพิษทางอากาศในขณะออกกำลังกาย ผลลัพธ์ต่อสุขภาพอาจเป็นไปในทางตรงกันข้าม ควรเลี่ยงการออกกำลังกายใกล้ถนนที่มีรถมาก หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศสูง

4. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้าน – เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพ สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้รับมลพิษ ไวรัส และเชื้อโรคต่าง ๆ ภายในบ้านได้ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวแน่นอน

5. ทำความสะอาดบ้านให้สะอาด ปิดหน้าต่างป้องกันฝุ่น – ในช่วงวิกฤต PM2.5 แนะนำให้หมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ โดยเฉพาะในห้องนอน และห้องที่ต้องอยู่เป็นประจำ เมื่อปริมาณฝุ่นในบ้านลดลงก็จะปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น และที่สำคัญ ไม่ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้ฝุ่นเข้ามาในห้องได้สะดวกยิ่งขึ้น

6. กินยาแก้ภูมิแพ้ หากมีอาการแพ้ – ยาแก้ภูมิแพ้ เป็นสิ่งจำเป็นที่ชาวภูมิแพ้ต้องมีติดบ้าน ติดตัวไว้ในยามวิกฤต PM2.5 เพราะ มีโอกาสที่เราจะเป็นภูมิแพ้อากาศได้สูง โดยปัจจุบันมียาแก้แพ้ที่กินแล้วไม่ง่วงนอน ปลอดภัยกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการแพ้ได้อย่างดี

สุดท้ายนี้ GED good life ก็ขอให้ชาวไทยทุกคน ดูแลสุขภาพในช่วงที่ PM2.5 ยังคงดุดันไม่เกรงใจใคร ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะหน้ากาก N95 เพื่อป้องกันฝุ่นพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจกันด้วยนะ เพื่อสุขภาพดีดีของเราเอง

 

อ้างอิง : 1. thaipost 2. gedgoodlife

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close